วันที่ 22 เมษายน 2564 เวลา 11.00 น. นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อฯ พร้อมด้วย นพ.มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขฯ และ นพ.สมโภชน์ กังวานธีรวัฒน์ ผอ.รพ.นครพนม ร่วมกันแถลงข่าวที่ห้องประชุมร่มฉัตร ชั้น 2 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม(สสจ.ฯ) เกี่ยวกับความคืบหน้าของผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(covid-19) ในพื้นที่ ซึ่งล่าสุดมีรายงานจากสาธารณสุขจังหวัดนครพนม(สสจ.ฯ) พบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มอีก 3 ราย โดยแยกออกเป็นชาย 1 หญิง 2 อายุสูงสุด 38 ปีเพศหญิง ต่ำสุด 22 ปี เพศชาย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 62 ราย
หลังจาก ผวจ.ฯกล่าวทักทายผู้ติดตามทางการถ่ายทอดเสียงและภาพสดจากสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดนครพนม นพ.มานพ ฉลาดธัญญกิจ สสจ.ฯ ได้เปิดเผยว่าจำนวนผู้ติดเชื้อเริ่มลดลงตามการคาดการณ์ไว้ เพราะทีมแพทย์เปิดยุทธวิธีตรวจเชิงรุก ทำให้ตัวเลขในระยะแรกสูง แต่หลังที่ควานตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยมาตรวจคัดกรอง โดยใช้หอประชุมยงใจยุทธเป็นจุดตรวจค้นหาเชื้อ โดยมีคลัสเตอร์สำคัญที่มาจากสถานบันเทิง 3 แห่งในจังหวัดนครพนม นำตัวพนักงานบริการของผับดังมาตรวจ พบมีจำนวน 2 คนที่ได้ไปสัมผัสกับผู้ป่วยโควิดที่นำเชื้อมาจากคลับทองหล่อมาแพร่ในพื้นที่ ก่อนจะไปสัมผัสกับนักท่องอีกหลายๆคน ส่วนพนักงานบริการอีก 2 รายที่ติดเชื้อไม่ใช่พนักงานของผับนี้ แต่เลิกงานแล้วมาเที่ยวต่อที่ผับดังกล่าวแล้วติดเชื้อ สรุปว่ามีเพียงพนักงานเสิร์ฟติดเชื้อเพียง 2 ราย คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ประมาณ 20 % ซึ่งจัดอยู่ในวงแรกของการติดเชื้อ วงที่สองคือนักเที่ยว 60 % ที่ถูกวงแรกแพร่เชื้อมาให้ ที่เหลืออีก 20 % เป็นผู้ป่วยจากแหล่งอื่น
ทั้งนี้ ผู้ป่วยทั้ง 3 ราย มีชายหนุ่มอายุ 22 ปี อาชีพนักศึกษา หารายได้เสริมด้วยการเป็นพนักงานเสิร์ฟร้านเนื้อย่างเข้ามาเที่ยวในผับ ถือเป็นผู้ป่วยรายที่ 60 ของจังหวัด ผู้ป่วยรายที่ 61 เป็นเพศหญิงอายุ 38 ปี เจ้าของธุรกิจส่วนตัว โดยรายนี้ไม่ได้ไปไหนทำงานอยู่บ้าน แต่มีเพื่อนจากจังหวัดพื้นที่สีแดง ได้แก่ จังหวัดชลบุรี และสมุทรปราการ มาเที่ยวเทศกาลสงกรานต์ แม้จะรู้ว่าเพื่อนมาจากพื้นที่เสี่ยงสูงก็ไม่มีการไปเข้ารับการตรวจหาเชื้อหรือกักตัวตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด กลับมีการร่วมรับประทานอาหาร กระทั่งเพื่อนเดินทางกลับก็มีอาการไข้จึงได้ไปหาหมอที่คลินิกเอกชน รับยาแก้ไข้แก้ปวดมาทานอาการก็ไม่ดีขึ้น จึงไปตรวจที่ รพ.ปลาปากเอ็กซเรย์พบว่ามีติดเชื้อในปอดจึงส่งตัวต่อมาที่ รพ.นครพนม แพทย์ตรวจหาเชื้ออย่างละเอียดพบผลเป็นบวก
ส่วนรายที่ 62 เป็นหญิงอายุ 22 ปี ทำงานพีอาร์อยู่ที่จังหวัดปัตตานี พักอาศัยกับเพื่อนอาชีพเดียวกันอีกหลายคน ช่วงโรคโควิดระบาดพบว่าเพื่อน 4 คนติดเชื้อ จึงมั่นใจว่าตนเองต้องติดแน่ แต่เกรงว่าถ้ารักษาอยู่ที่นั่นจะไม่มีคนดูแล จึงนั่งเครื่องบินมาลงที่ท่าอากาศยานนครพนม โดยระหว่างโดยสารมาใส่แมกส์ป้องกันการแพร่สู่บุคคลในเครื่องถึง 2 ชั้น จากนั้นก็ให้ญาติพาไปเข้าขอรับการตรวจหาเชื้อที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชธาตุพนม ผลออกมาเป็นบวกตามที่คาดไว้จริง ๆ
นายแพทย์ สสจ.ฯกล่าวต่อว่าเคสคลัสเตอร์จิวเวลรี่ที่อัดกันมา 11 คนเหมือนปลากระป๋อง หลังพบเชื้อแล้ว 7 รายที่เหลือถึงขณะนี้ผลตรวจเป็นลบ อาจเป็นเพราะ 4 รายนี้นั่งอยู่กระบะหลังจึงไม่ค่อยได้สัมผัสกับผู้ป่วยที่อยู่ในเก๋ง คาดคะเนว่าทั้ง 4 รายนี้น่าจะรอดติดเชื้อ ถือว่าคลัสเตอร์ปลากระป๋องคงไม่มีปัญหา ส่วนคลัสเตอร์สถานบันเทิงไม่น่าเกินวันศุกร์นี้ทุกอย่างคงปิดจ๊อบได้ ตามยุทธวิธีตรวจเร็วเจอเร็วและปิดเร็ว
ด้าน นพ.สมโภชน์ กังวานธีรวัฒน์ ผอ.รพ.นครพนม เผยถึงความคืบหน้าเคสผู้ป่วยวิกฤต 1 ราย ขณะนี้ความเข้มข้นออกซิเจนในเลือดเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 60-70 โดยในคนปกติจะอยู่ที่ 90-95 ด้วยสาเหตุที่ผู้ป่วยมีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือด ประกอบกับเป็นคนมีน้ำหนักตัวเยอะ คงอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิดของแพทย์ในห้อง ICU ซึ่งปัจจุบันโรงพยาบาลรับผู้ป่วยโควิดไว้ 25 ราย และอยู่ รพ.สนามอีก 15 ราย โดยรวมมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัวปวดเมื่อยคล้ายไข้หวัด แพทย์ให้ยารักษาตามอาการ ทุกรายไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
จากนั้น นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.นครพนม ได้กล่าวถึงกรณีมีบางคนสงสัยถามว่า ว่างงานมากหรืออย่างไรถึงมานั่งแถลงข่าวได้ทุกวัน ขอชี้แจงว่าเป็นคำสั่งของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) กำหนดไว้ว่าถ้าพบคนติดเชื้อโควิดต้องแถลงให้ประชาชนทราบ ถือเป็นหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติ อีกอย่างหากอืดอาดตรวจช้าเจอช้าโอกาสบานปลายสูง
นอกจากนี้มีประชาชนในจังหวัดนครพนม เห็นใจบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานหามรุ่งหามค่ำ ได้ชักชวนกันนำน้ำดื่ม ผลไม้ มามอบให้กับสาธารณสุขจังหวัดนครพนม เพื่อนำไปแจกจ่ายแก่บุคลากรทางการแพทย์ตามโรงพยาบาลต่าง ๆ และภายในห้องทีมค้นหาโรคที่มีไทม์ไลน์ของผู้ป่วยติดเชื้อ ยังคงทำงานกันอย่างขะมักเขม้น ตั้งแต่ติดตามการสอบสวนโรค ติดต่อประสานผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ฯลฯ ขั้นไม่มีเวลาพักทานข้าว แม้นทำงานหนักขนาดนี้สายเกรียนยังจ้องจับผิด