โวยสร้างถนนเร่งด่วน-เบี้ยวจ่ายค่าแรง
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2564 นายกมล สัญชาติไทย อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144 หมู่ 3 บ้านแม่สุริน ต.ขุนยวม อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน คนงานที่รับจ้างก่อสร้างถนน เส้นทางเข้าสู่พื้นที่การเกษตร บ้านแม่สุริน เปิดเผยว่า ได้เป็นคนงานรับจ้างก่อสร้างถนนพร้อมกับพวกอีก 7 คน ปัจจุบันยังไม่ได้รับค่าจ้าง โดยถนนเส้นทางดังกล่าว พวกตนได้เข้าทำงานในวันแรกเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2563 โดยมีการเตรียมพื้นที่และวางผังแบบขอบถนน และก่อสร้างจนแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งหลังจากถนนเส้นดังกล่าวได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ คนงานทุกคน จำนวน 7 คน ได้รับค่าจ้างวันละ 350 บาท ยังไม่ได้รับค่าจ้าง จากผู้ว่าจ้างแต่อย่างใด และเวลาได้ล่วงเลยมาเกือบ 3 เดือน โดยทางผู้รับเหมาอ้างว่า ทาง อบต.ยังไม่ได้จ่ายเงินค่าก่อสร้างถนนให้กับผู้รับเหมา
สำหรับถนนเส้นทางดังกล่าว เป็นเส้นทางเข้าสู่พื้นที่การเกษตร ซึ่งทางเกษตรกรต้องการให้ก่อสร้างมานานแล้ว เนื่องจากเส้นทางเดิมเป็นหลุมบ่อ ขรุขระ การสัญจรเป็นไปด้วยความยากลำบาก ซึ่งมีเกษตรกรกว่า 20 รายที่อยู่ด้านหลังถนนต้องการให้มีการก่อสร้าง โดยตนเป็นหนึ่งในเกษตรกรในพื้นที่ดังกล่าวที่ได้รับผลกระทบจากการไม่สามารถลำเลียงสินค้าด้านการเกษตรออกสู่ตลาดได้ เมื่อมีการก่อสร้าง เกษตรกรทุกคนต่างพอใจมาก แต่มาติดปัญหาเรื่องรับจ้างทำงานแล้วไม่ได้ค่าจ้าง
นายกมล กล่าวว่าสำหรับถนนเส้นดังกล่าว เป็นโครงการขององค์การบริหารส่วนตำบลแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ขุนยวม ในโครงการซ่อมแซมถนนเข้าพื้นที่การเกษตรถนน คสล.2 สายทาง กว้าง 3 เมตร ยาว 150 เมตร หรือพื้นที่ไม่น้อยกว่า 450 ตารางเมตร บ้านแม่สุริน หมู่ 3 ต.ขุนยวม อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน งบประมาณ 3 แสนบาท วันเริ่มสัญญาวันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 วันสิ้นสุดสัญญาวันที่ 11 ธันวาคม 2563 ผู้รับจ้าง ฉัตรมงคลการค้า
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 แหล่งข่าวจาก ผอ.กองช่าง องค์การบริหารส่วนตำบลแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ได้ร่อนหนังสือร้องถึงสื่อมวลชน ว่า ตามหนังสือที่ มส. 75303 ลงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2563 เรื่องรายงานการเข้าดำเนินการก่อนสัญญาจ้าง ว่าปัจจุบัน ตนกำลังได้รับการกดดันจากนายกองค์การบริหารส่วนตำบลที่ตนสังกัดอยู่ สืบเนื่องมาจาก ทาง อบต.ได้มีการโครงการก่อสร้างถนน คสล.แห่งหนึ่งในพื้นที่บ้านแม่สุริน หมู่ 3 ต.ขุนยวม อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน
โดยมี หจก.แห่งหนึ่ง เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างถนนเส้นทางดังกล่าว ตามสัญญาจ้างที่ 23/2564 ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 วงเงินค่าจ้าง 300,000 บาท ( สามแสนบาทถ้วน ) เริ่มต้นสัญญาจ้างวันที่ 12 พฤศจิกายน 2563 และ สิ้นสุดสัญญาจ้างในวันที่ 11 ธันวาคม 2563 ระยะเวลา 30 วัน
ข้อเท็จจริง ทางเจ้าหน้าที่กองช่าง ได้รับแจ้งการเข้าดำเนินการก่อสร้างก่อนทำสัญญาจ้าง โดยทางสมาชิก อบต.ในพื้นที่บ้านแม่สุริน ได้ส่งภาพการทำงานระหว่างวันที่ 8-9 พฤศจิกายน 2563 ต่อมา ทางกองช่างได้สั่งให้ผู้ช่วยนายช่างโยธา สั่งให้ หจก.ดังกล่าว หยุดการก่อสร้าง แต่เป็นการสั่งด้วยวาจา ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2563 เนื่องจากเป็นการก่อสร้างก่อนตกลงทำสัญญากับ อบต. แต่ทาง หจก.ดังกล่าว ยังทำงานต่อจนเสร็จในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2563
ต่อมาในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 ได้มีการประชุมผู้บริหาร และพนักงาน ในการประชุมประจำเดือนพฤศจิกายน 2563 จึงแจ้งให้ผู้บริหารในที่ประชุมทราบว่า ผู้รับเหมาได้เข้าดำเนินการก่อสร้างซ่อมแซมถนน คสล.หมู่ 3 บ้านแม่สุริน แล้วโดยที่ยังไม่ได้ทำสัญญาจ้างตามระเบียบการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ ภาครัฐ พ.ศ.2560 รวมถึงผู้รับเหมาไม่ได้มีการแจ้งการเข้าดำเนินการก่อสร้างแต่อย่างใด จึงถือว่าเป็นการดำเนินการไม่ถูกต้องตามระเบียบพัสดุฯ และต่อมาในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 ในส่วนของกองช่าง ได้รับสำเนาสัญญาจ้างก่อสร้าง เลขที่ 23/2564 ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 และสำเนาคำสั่งที่ 424/2563 ลงวันที่ 6 พฤศจิกายน 2563 เป็นคำสั่งแต่ตั้งเป็นผู้ควบคุมงานจ้างและให้ควบคุมงานจ้างตามอำนาจหน้าที่
เรื่องดังกล่าว เป็นการทำงานเสร็จก่อนทำสัญญาจ้าง ผู้ควบคุมงานจึงไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ควบคุมงานตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ข้อ 178 ( 1 ) (2 ) (3 ) ดังนั้นในนามของผู้ควบคุมงานจ้างตามคำสั่งที่ 424/2563 ลงวันที่ 6 พฤศจิกายน 2563 นั้นจึงบันทึกเสนอต่อคณะกรรมการตรวจรับงานจ้างเพื่อตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ ในส่วนของการบริหารสัญญาจ้างต่อไป
แหล่งข่าว กล่าวอีกว่า จากรูปถ่ายที่ได้รับ พบว่าหินและกรวดที่ใช้ในการก่อสร้าง ไม่ได้มาตรฐานตามที่ กำหนด และไม่มีการล้างทำความสะอาดก่อนก่อสร้างอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ต่อมา ทางนายกอบต.คนดังกล่าว ได้ทำหนังสือถึง ผอ.กองช่าง ระบุว่า เป็นโครงการเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาให้ราษฎร หมู่ที่ 3 คือโครงการซ่อมแซมถนนเพื่อการเกษตร ต้องเป็นไปตามระเบียบพัสดุ ให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าผู้รับจ้างเข้าไปดำเนินการก่อนทำสัญญาหรือไม่ หากเป็นข้อเท็จจริงเหตุใดช่างควบคุมงานจึงไม่รายงานเหตุดังกล่าวให้กับผู้บริหารทราบเป็นลายลักษณ์อักษร เหตุใดช่างจึงปล่อยให้ล่วงเลยระยะเวลาจนถึงวันที่ 25 พ.ย.2563 และถึงค่อยรายงาน ซึ่งอาจทำให้ก่อเกิดความเสียหายต่อหน่วยงาน เนื่องจากปล่อยให้มีการลงนามในสัญญาจ้างและผู้รับจ้างได้ดำเนินการตามสัญญาแล้ว หากพบว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยประมาทเลินเล่อ จนทำให้ราชการเสียหายให้ดำเนินการทางวินัยทันที