วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า (บก.คฟป.ทภ.3 สน.) จ.เชียงใหม่ ร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นำเฮลิคอปเตอร์ ปภ. KA-32 ปฏิบัติการควบคุมไฟป่าในพื้นที่ ต.ก้อ อ.ลี้ จ.ลำพูน และอ.ฮอด จ.เชียงใหม่ โดยจากการบินสำรวจพบว่ามีไฟป่าหลายจุดที่กำลังลุกไหม้ส่งผลทำให้มีหมอกควันปกคลุมในพื้นที่ ขณะเดียวกัน เฮลิคอปเตอร์ได้บินมาตักน้ำที่แก่งก้อ ในอุทยานแห่ชาติแม่ปิง ต.ก้อ อ.ลี้ จ.ลำพูน บินไปโปรยน้ำเพื่อดับไฟป่าจำนวนหลายเที่ยวบิน
ทั้งนี้ จากการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือ พบว่าช่วงนี้ลักษณะอากาศทั่วไปบริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางยังคงปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีอากาศหนาวเย็นและมีหมอกบางในตอนเช้า นอกจากนี้ยังพบว่าช่วงนี้สภาพอากาศร้อนในตอนกลางวัน ไม่มีฝนและลมมีกำลังอ่อนลง ทำให้เริ่มมีการสะสมของฝุ่นละอองและหมอกควันมากขึ้น
โดยเช้าวันนี้ ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ พบ PM 2.5 เฉลี่ยอยู่ระหว่าง 32 - 67 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร, ค่า PM 10 ระหว่าง 53-97 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ ค่าAQI ระหว่าง 39 -175 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งคุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับดี โดยที่ จ.ลำปาง บ้านดง อ.แม่เมาะ และ ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ พบมีค่า PM 2.5 และ ค่าAQI อยู่ในระดับที่เริ่มมีผลต่อสุขภาพ เนื่องจากพบการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่
ทั้งนี้ สถานการณ์ไฟป่าและจุดความร้อน(Hotspot) ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ จากดาวเทียมระบบ VIIRS วันนี้ พบจำนวน 187 จุด โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จำนวน 114 จุด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 46 จุด และเขต สปก. จำนวน 13 จุด และอื่น ๆ 14 จุด
ในส่วนของกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ยังคงจัดชุดรณรงค์สร้างจิตสำนึก 15 ชุดปฏิบัติการลงพื้นที่สร้างความรู้ความเข้าใจกับประชาชนเรื่องการดูแลสุขภาพช่วงเกิดภาวะหมอกควัน ตลอดจนรณรงค์ลดการเผาในพื้นที่ ตามข้อสั่งการของ พล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวี รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะรองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า