บอกบุญร่วมบริจาคช่วยช้างพิการ-ตกงานยุคโควิด
วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สวนพระพุทธบูชาเฉลิมพระเกียรติ หมู่ 14 ต.บ้านกลาง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ครูบาบุญล้อม หน่อแก้วโพธิญาณ ผู้อำนวยการศูนย์สวนพระพุทธบูชาเฉลิมพระเกียรติ พร้อมคณะศิษยานุศิษย์ ได้ร่วมกันช่วยบอกบุญต่อสาธุชนที่มีจิตกุศลเมตตาอยากช่วยชีวิตช้างพิการ ช้างตกงาน และควาญช้างผู้ดูแล ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19
ครูบาบุญล้อม หน่อแก้วโพธิญาณ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้โพสต์ขอรับเงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือช้างพังวาสนาและควาญช้างที่ตกงานช่วงโควิด-19 เป็นเงินจำนวน 650,000 บาท เนื่องจากเจ้าของพังวาสนาจำเป็นต้องใช้เงินจึงตัดสินใจขายช้างเชือกนี้ แต่ถ้าหากทางวัดไม่รับดูแลจะถูกขายต่อให้กับนายทุนไปใช้งานแทน โดยวันนี้มีกำหนดรับเงินบริจาคเป็นวันสุดท้าย หลังจากเปิดรับบริจาคมาแล้วถึง 15 วัน
ปรากฏว่ายอดเงินที่มีผู้ใจบุญร่วมบริจาคมากเกินจำนวนกับที่วัดตั้งใจเอาไว้ เป็นยอดเงินประมาณ 680,000 บาท เงินส่วนที่เกินมาจะใช้ในเรื่องของการเป็นค่าเดินทางไปรับพังวาสนาจาก จ.บุรีรัมย์ และค่าอาหารแก่ช้างต่อไป พร้อมยุติการขอรับบริจาคเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อความบริสุทธิ์ใจและเพื่อความโปร่งใส
ทั้งนี้ที่ผ่านมาทางสวนพระพุทธบูชาเฉลิมพระเกียรติ ได้ไถ่ชีวิตช้างพิการมาแล้วจำนวนถึง 3 เชือก คือ ช้างสีดอดาว เพศผู้ อายุ 58 ปี ช้างพิการดวงตาบอดสนิททั้ง 2 ข้าง อดีตเคยเป็นช้างชักลากท่อนซุงจากประเทศเมียนมาและถูกทำร้ายจนตาบอด ซึ่งทางวัดขอไถ่ชีวิตมาเป็นเงินจำนวน 1 ล้านบาท เพื่อให้บั้นปลายของชีวิตช้างสีดอดาวได้อาศัยอยู่ที่วัดอย่างมีความสุข และยังมีช้างพลายค้ำนาย เพศผู้ อายุ 18 ปี ซึ่งถูกรถกระบะชนจนงาข้างขวาหัก และเป็นช้างที่ใช้งานชักลากไม้อยู่ที่ อ.วังชิ้น จ.แพร่ ทางวัดได้ไถ่ชีวิตมาในราคา 1.5 ล้านบาท
ส่วนอีกเชือกเป็นช้างสีดอน้อย เพศผู้ อายุ 45 ปี ช้างพิการตาขวาบอด 1 ข้าง ขณะนี้ทางวัดมีช้างพิการในความดูแลถึง 4 เชือก และจะมีช้างชราตกงานพร้อมกับควาญช้างที่จะมาขออาศัยอยู่ที่วัดด้วยอีก 1 เชือก กำลังเดินทางมาจาก จ.ภูเก็ต โดยช้างทุกตัวมีใบอนุญาตครอบครองถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งการทำบุญใหญ่ครั้งนี้ของญาติโยมที่ช่วยกันบริจาคเงินมาให้ถือว่าเป็นบุญใหญ่ได้กุศลแรง เพราะช้างเป็นสัตว์ใหญ่ เป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของคนไทยช้างเชือกหนึ่งจะกินผลไม้เป็นอาหารถึงวันละ 400 กก. ทางวัดต้องดำเนินการเรื่องค่าใช้จ่ายเหล่านี้ทั้งหมด
นอกจากนี้ที่วัดยังมีสัตว์ชนิดอื่นๆ ที่ไถ่ชีวิตมาดูแลอีกไม่ต่ำกว่า 1,400 ตัว อาทิ ม้า วัว ควาย แพะ งู เต่า ตัวอ้น เป็นต้น ซึ่งในแต่ละวันก็จะมีญาติโยมแวะมาทำบุญช่วยเหลือเป็นค่าเลี้ยงดูและค่าอาหารให้กับสัตว์เหล่านี้อีกด้วย
ครูบาบุญล้อม กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาได้ช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน เช่น บ้านถูกไฟไหม้ จะเปิดรับบริจาคจากผู้ใจบุญเพื่อสร้างบ้านให้ โดยตั้งใจว่าจะสร้างบ้านให้กับผู้ที่เดือดร้อนเดือนละ 1 หลัง อีกทั้งยังช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์น้ำท่วมทางภาคใต้ หรือนำสิ่งของไปมอบให้กับชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง ซึ่งทำเช่นนี้เป็นประจำทุกปี มาเป็นระยะเวลาถึง 8 ปีแล้ว
ส่วนในด้านอื่นๆ ตอนนี้ทางวัดได้เตรียมปรับสถานที่เพื่อใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งในปีนี้ทางวัดมีโครงการจะสร้างพ่อปู่พญานาค สูง 58 เมตร ยาว 219 เมตร และสร้างพระนอนที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้แวะมากราบไหว้ขอพรต่อไป
