นักวิทยาศาสตร์ได้เริ่มทำการวิจัยไขมันสีน้ำตาลในสัตว์และทารกมานานหลายทศวรรษแล้วและได้มีการค้นพบในปีพ.ศ.2552 ว่าคนในวัยผู้ใหญ่ก็ยังมีเซลล์เหล่านี้อยู่ที่บริเวณลำคอและไหล่แต่นักวิจัยประสบปัญหาในการสแกนหาเซลล์เหล่านี้เพราะการสแกนมีราคาแพง ภาพสแกนต้องใช้รังสีทีมวิจัยอยู่ใกล้กับศูนย์มะเร็ง Memorial Sloan Kettering ที่นั่นมีผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการประเมินมะเร็งจำนวนมากนักวิจัยจึงเข้าร่วมการสแกนตรวจจับไขมันสีน้ำตาล และนักรังสีวิทยาทำการจดบันทึกเพื่อไม่ให้แพทย์เข้าใจผิดว่าเป็นก้อนมะเร็ง
นอกจากนี้ผู้ป่วยเพียงร้อยละ 18.9 ที่มีไขมันสีน้ำตาลจะมีระดับคอเลสเตอรอลที่ผิดปกติ เมื่อเทียบกับร้อยละ 22.2 ของผู้ที่ไม่มีไขมันสีน้ำตาล ผู้ป่วยที่มีเนื้อเยื่อไขมันสีน้ำตาลนั้น ยังลดความเสี่ยงต่อความดันโลหิตสูงหัวใจล้มเหลวและโรคหลอดเลือดหัวใจผลการวิจัยชี้ให้เห็นถึงไขมันสีน้ำตาลส่งผลกระทบต่อสุขภาพของโรคอ้วนในผู้ป่วยที่มีน้ำหนักเกิน