โดยครั้งนี้แชมป์เก่าสมัยที่ผ่านมาอย่าง นายสถิรพร นาคสุข ได้สละเก้าอี้โดยอ้างว่าต้องการให้คนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารจังหวัดยโสธรแทนตนเอง และส่งเพียงลูกชายหัวแก้วหัวแหวนทั้ง 2 คนลงสมัครชิงชัยเลือกตั้ง ส.อบจ.เขตอำเภอเมืองยโสธรในสังกัดพรรคเพื่อไทยเท่านั้น
พื้นที่สนามเลือกตั้ง อบจ.ยโสธร มีผู้สมัครนายก อบจ.3 ราย ประกอบด้วยหมายเลข 1 "นายวิเชียร สมวงศ์"อดีต ส.อบจ. ที่ลงในนามพรรคเพื่อไทย(พท.)หมายเลข 2 "นายสมหวัง จำปาหอม" ทนายความลงสมัครอิสระ และหมายเลข 3 "นายสฤษดิ์ ประดับศรี" อดีตนายก อบจ.ปี 2551 และอดีต ส.ส. 2 สมัย ลงสมัครในนามคณะก้าวหน้า เมื่อเทียบฟอร์มผู้ท้าชิงแล้วงานนี้ทั้ง 2 กลุ่มใหญ่เจองานหนักพอสมควร เพราะแต่ละรายมีพรรคการเมือง กลุ่มการเมืองและกลุ่มฐานเสียงสนับสนุนอย่างเต็มที่ แม้บางรายเป็นหน้าใหม่ในสนามแต่ไม่ใช่หน้าใหม่ในพื้นที่
เริ่มจาก "นายวิเชียร"เป็นอดีต ส.อบจ.เขต อ.คำเขื่อนแก้ว และยังมีดีกรีน้องชายแท้ ๆ ของ "นายบุญแก้ว สมวงศ์" สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.)เขต 2 พรรคเพื่อไทย โดยจังหวัดนี้เก้าอี้เป็นของพรรคเพื่อไทยทั้ง 3 เขต ที่สำคัญมีฐานเสียงของพรรคสนับสนุน นอกจากนี้ยังมีผู้สมัคร ส.อบจ.หน้าเก่าจำนวนหลายรายกระโดดมาร่วมทีมสนับสนุน โดยนโยบายของนายวิเชียร ประกอบด้วย โครงสร้างพื้นฐานโดยเปลี่ยนถนนดิน หินลูกรัง เป็นถนนลาดยางทางคอนกรีต,พัฒนาแหล่งน้ำการศึกษาเป็นเลิศคือส่งเสริมจัดหาพัฒนาบุคลากรให้มีคนภาพ สนับสนุนการกีฬาทุกระดับ เรียนดีมีทุน สนับสนุนเด็กยากจน ส่งเสริมงานประเพณีและวัฒนธรรมท้องถิ่นและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว,พัฒนาอาชีพคือส่งเสริมการเกษตรอินทรีย์ สนับสนุนตลาดชุมชน สนับสนุนผู้ด้อยโอกาสและส่งเสริมสหกรณ์ชุมชนทุกคนมีส่วนร่วม,สุขภาพดีถ้วนหน้าคือดูแลคนสูงวัย เอาใจใส่คนพิการ,การเดินทางขนส่งคือระบบขนส่งคุณภาพ ใกล้บ้าน,สุขภาพคือสุขภาพดีใกล้บ้าน วัคซีนใกล้บ้าน,การศึกษาคือลูกคุณเราดูแล ลูกเราต้องเท่ากันและการศึกษาระดับโลกใกล้บ้าน ,การเกษตร อาหารปลอดภัยคือเกษตรปลอดภัย ใกล้บ้าน สู่ครัวโลก ปลูกในถิ่นและกินไปทั่วโลก,SMEsและ OTOP คือSMEs ระดับชุมชนใกล้บ้านสู่การค้าระดับโลก ,ท่องเที่ยว กีฬา วัฒนธรรมคือโครงการแหล่งท่องเที่ยวชุมชน สร้างงานสร้างรายได้ใกล้บ้าน ต้องมาลุ้นว่ากระแสพรรคเพื่อไทยจะยังครองใจชาวบ้านได้หรือไม่
ข้ามมาที่ฝั่งมาที่ "สมหวัง" เป็นทนายความชื่อดัง ที่กระโดดเข้ามาสร้างสีสันขอชิงเก้าอี้นายก อบจ.ลงสมัครครั้งนี้ไม่สังกัดพรรคใด อดีตเคยลงสมัครทั้งการเมืองระดับชาติและการเมืองท้องถิ่นมานับครั้งไม่ถ้วนแต่ไม่เคยสมหวังดังชื่อ โดยครั้งนี้ "สมหวัง"ใช้วิธีการหาเสียงมิติใหม่โดยการวิ่งลงพื้นที่เพื่อพบปะชาวบ้านจนครบทั้ง 885 หมู่บ้านทั่วจังหวัดยโสธรแล้ว โดยใช้สโลแกนว่า "อยากรวยเลือกสมหวัง" ซึ่งจากการวิ่งลงพื้นที่สมหวังการตอบรับดีเยี่ยม เนื่องจากชาวบ้านชอบนโยบาย และวิธีการหาเสียงที่แปลกแตกต่าง เป็นมิติใหม่ทางการเมืองที่กำลังจะเริ่มที่ยโสธร แทนการหาเสียงที่นำเงินมาทุ่ม
มาที่ตัวเต็งอย่าง "สฤษดิ์ ประดับศรี" อดีต ส.ส. 2 สมัยและอดีตนายก อบจ. 1 สมัย ที่ครั้งนี้ฟูลทีม ส.อบจ.หน้าใหม่พร้อมลงสมัครครบ 30 เขต อีกทั้งยังสวมเสื้อคณะก้าวหน้า ซึ่งมีฐานเสียงเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่และในพื้นที่ยังมีความเคลื่อนไหวทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ "สฤษดิ์" ยังออกเคาะประตูบ้านขอคะแนนเสียง เดินตลาดนัดชุมชนอย่างต่อเนื่อง และนโยบายที่พัฒนาเศรษฐกิจเขตเมืองคือนโยบายรถโดยสารสาธารณะและพัฒนาพื้นที่เพื่อสุขภาพและสร้างสรรค์ มีลานกีฬา,ลานสเก็ตบอร์ดและลานกิจกรรม เพื่อให้เยาวชนและประชาชนทั่วไปได้แสดงออกและพัฒนาตัวเองไม่สิ้นสุด และยังมี 6 นโยบายที่จะพลิกฟื้นชีวิตของเกษตรกรทั่วจังหวัดคือ 1.น้ำฮอดนา จัดให้มีระบบธนาคารน้ำใต้ดินและบ่อเปิดทั่วทั้งจังหวัด พัฒนาลำห้วยเดิมคือขุดลอก ทำฝายน้ำล้นเป็นระยะตามลำห้วย ติดตั้งสถานีสูบน้ำขนาดใหญ่ 2 จุด ในลำน้ำยัง ต.เดิด อ.เมืองยโสธรและลำน้ำชีบรรจบลำน้ำยัง ต.ค้อเหนือ อ.เมืองยโสธร ติดตั้งสถานีสูบน้ำขนาดเล็กเพื่อผันน้ำไปสู่ลำห้วยที่ขาดน้ำไกลเคียง 50 จุด 2.ไฟฟ้าฮอดทถางนาจัดให้มีการติดตามประสานงานทุกครัวเรือนมีไฟฟ้าใช้ในปี 2564 ติดตามประสานงานไฟฟ้าหรือโซล่าเซลล์สู่แหล่งเกษตรในแปลงสาธิต 78 จุดหรือ 78 ตำบลในปี 64 และให้ครอบคลุมพื้นที่เกษตรปีละ 10% ของครัวเรือนที่ทำการเกษตร 3.ส่งเสริมศูนย์เกษตรสาธิต ส่งเสริมการจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนทุกตำบล ทำแปลงสาธิตการผลิตเพื่อลดพื้นที่เพาะปลูก ลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มผลผลิตต่อไร่ ส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ จัดหาประสานแหล่งทุนเพื่อการผลิต 4.ผลผลิตมีหม่องขาย จัดตั้งตลาดกลางสินค้าเกษตรและสินค้าชุมชนจังหวัด ส่งเสริมระบบตลาดซื้อขายล่วงหน้าและตลาดออนไลน์ 5.ขยายบทบาทสตรีก้าวหน้า คือการพัฒนาเครือข่ายเยาวชน ผู้สูงอายุและสตรี โดยพัฒนาต่อยอดกิจกรรมเครือข่ายสตรี ส่งเสริมห้องเรียนเพื่อความเป็นเลิศของเยาวชน ผู้สูงอายุและสตรีตามความสนใจ สร้างศูนย์ Care Space พื้นที่การพัฒนาเยาวชน ผู้สูงอายุและสตรี และ 6.เพิ่มมูลค่าจากการค้าจากการท่องเที่ยว โดยพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวชุมชนเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในจังหวัดและส่งเสริมการจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟหมุนเวียนทุกอำเภอ เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยว.
เริ่มจาก "นายวิเชียร"เป็นอดีต ส.อบจ.เขต อ.คำเขื่อนแก้ว และยังมีดีกรีน้องชายแท้ ๆ ของ "นายบุญแก้ว สมวงศ์" สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.)เขต 2 พรรคเพื่อไทย โดยจังหวัดนี้เก้าอี้เป็นของพรรคเพื่อไทยทั้ง 3 เขต ที่สำคัญมีฐานเสียงของพรรคสนับสนุน นอกจากนี้ยังมีผู้สมัคร ส.อบจ.หน้าเก่าจำนวนหลายรายกระโดดมาร่วมทีมสนับสนุน โดยนโยบายของนายวิเชียร ประกอบด้วย โครงสร้างพื้นฐานโดยเปลี่ยนถนนดิน หินลูกรัง เป็นถนนลาดยางทางคอนกรีต,พัฒนาแหล่งน้ำการศึกษาเป็นเลิศคือส่งเสริมจัดหาพัฒนาบุคลากรให้มีคนภาพ สนับสนุนการกีฬาทุกระดับ เรียนดีมีทุน สนับสนุนเด็กยากจน ส่งเสริมงานประเพณีและวัฒนธรรมท้องถิ่นและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว,พัฒนาอาชีพคือส่งเสริมการเกษตรอินทรีย์ สนับสนุนตลาดชุมชน สนับสนุนผู้ด้อยโอกาสและส่งเสริมสหกรณ์ชุมชนทุกคนมีส่วนร่วม,สุขภาพดีถ้วนหน้าคือดูแลคนสูงวัย เอาใจใส่คนพิการ,การเดินทางขนส่งคือระบบขนส่งคุณภาพ ใกล้บ้าน,สุขภาพคือสุขภาพดีใกล้บ้าน วัคซีนใกล้บ้าน,การศึกษาคือลูกคุณเราดูแล ลูกเราต้องเท่ากันและการศึกษาระดับโลกใกล้บ้าน ,การเกษตร อาหารปลอดภัยคือเกษตรปลอดภัย ใกล้บ้าน สู่ครัวโลก ปลูกในถิ่นและกินไปทั่วโลก,SMEsและ OTOP คือSMEs ระดับชุมชนใกล้บ้านสู่การค้าระดับโลก ,ท่องเที่ยว กีฬา วัฒนธรรมคือโครงการแหล่งท่องเที่ยวชุมชน สร้างงานสร้างรายได้ใกล้บ้าน ต้องมาลุ้นว่ากระแสพรรคเพื่อไทยจะยังครองใจชาวบ้านได้หรือไม่
ข้ามมาที่ฝั่งมาที่ "สมหวัง" เป็นทนายความชื่อดัง ที่กระโดดเข้ามาสร้างสีสันขอชิงเก้าอี้นายก อบจ.ลงสมัครครั้งนี้ไม่สังกัดพรรคใด อดีตเคยลงสมัครทั้งการเมืองระดับชาติและการเมืองท้องถิ่นมานับครั้งไม่ถ้วนแต่ไม่เคยสมหวังดังชื่อ โดยครั้งนี้ "สมหวัง"ใช้วิธีการหาเสียงมิติใหม่โดยการวิ่งลงพื้นที่เพื่อพบปะชาวบ้านจนครบทั้ง 885 หมู่บ้านทั่วจังหวัดยโสธรแล้ว โดยใช้สโลแกนว่า "อยากรวยเลือกสมหวัง" ซึ่งจากการวิ่งลงพื้นที่สมหวังการตอบรับดีเยี่ยม เนื่องจากชาวบ้านชอบนโยบาย และวิธีการหาเสียงที่แปลกแตกต่าง เป็นมิติใหม่ทางการเมืองที่กำลังจะเริ่มที่ยโสธร แทนการหาเสียงที่นำเงินมาทุ่ม
มาที่ตัวเต็งอย่าง "สฤษดิ์ ประดับศรี" อดีต ส.ส. 2 สมัยและอดีตนายก อบจ. 1 สมัย ที่ครั้งนี้ฟูลทีม ส.อบจ.หน้าใหม่พร้อมลงสมัครครบ 30 เขต อีกทั้งยังสวมเสื้อคณะก้าวหน้า ซึ่งมีฐานเสียงเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่และในพื้นที่ยังมีความเคลื่อนไหวทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ "สฤษดิ์" ยังออกเคาะประตูบ้านขอคะแนนเสียง เดินตลาดนัดชุมชนอย่างต่อเนื่อง และนโยบายที่พัฒนาเศรษฐกิจเขตเมืองคือนโยบายรถโดยสารสาธารณะและพัฒนาพื้นที่เพื่อสุขภาพและสร้างสรรค์ มีลานกีฬา,ลานสเก็ตบอร์ดและลานกิจกรรม เพื่อให้เยาวชนและประชาชนทั่วไปได้แสดงออกและพัฒนาตัวเองไม่สิ้นสุด และยังมี 6 นโยบายที่จะพลิกฟื้นชีวิตของเกษตรกรทั่วจังหวัดคือ 1.น้ำฮอดนา จัดให้มีระบบธนาคารน้ำใต้ดินและบ่อเปิดทั่วทั้งจังหวัด พัฒนาลำห้วยเดิมคือขุดลอก ทำฝายน้ำล้นเป็นระยะตามลำห้วย ติดตั้งสถานีสูบน้ำขนาดใหญ่ 2 จุด ในลำน้ำยัง ต.เดิด อ.เมืองยโสธรและลำน้ำชีบรรจบลำน้ำยัง ต.ค้อเหนือ อ.เมืองยโสธร ติดตั้งสถานีสูบน้ำขนาดเล็กเพื่อผันน้ำไปสู่ลำห้วยที่ขาดน้ำไกลเคียง 50 จุด 2.ไฟฟ้าฮอดทถางนาจัดให้มีการติดตามประสานงานทุกครัวเรือนมีไฟฟ้าใช้ในปี 2564 ติดตามประสานงานไฟฟ้าหรือโซล่าเซลล์สู่แหล่งเกษตรในแปลงสาธิต 78 จุดหรือ 78 ตำบลในปี 64 และให้ครอบคลุมพื้นที่เกษตรปีละ 10% ของครัวเรือนที่ทำการเกษตร 3.ส่งเสริมศูนย์เกษตรสาธิต ส่งเสริมการจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนทุกตำบล ทำแปลงสาธิตการผลิตเพื่อลดพื้นที่เพาะปลูก ลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มผลผลิตต่อไร่ ส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ จัดหาประสานแหล่งทุนเพื่อการผลิต 4.ผลผลิตมีหม่องขาย จัดตั้งตลาดกลางสินค้าเกษตรและสินค้าชุมชนจังหวัด ส่งเสริมระบบตลาดซื้อขายล่วงหน้าและตลาดออนไลน์ 5.ขยายบทบาทสตรีก้าวหน้า คือการพัฒนาเครือข่ายเยาวชน ผู้สูงอายุและสตรี โดยพัฒนาต่อยอดกิจกรรมเครือข่ายสตรี ส่งเสริมห้องเรียนเพื่อความเป็นเลิศของเยาวชน ผู้สูงอายุและสตรีตามความสนใจ สร้างศูนย์ Care Space พื้นที่การพัฒนาเยาวชน ผู้สูงอายุและสตรี และ 6.เพิ่มมูลค่าจากการค้าจากการท่องเที่ยว โดยพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวชุมชนเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในจังหวัดและส่งเสริมการจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟหมุนเวียนทุกอำเภอ เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยว.