วันที่ 26 ต.ค. เพจ Infectious ง่ายนิดเดียว โพสต์สถานการณ์การระบาดของ โรค RSV ที่กำลังระบาดหนักอยู่ในขณะนี้ โดยระบุว่า ระบาดหนักกว่าโควิด-19 ก็ RSV อาการหนัก ระบาดหนัก ช่วงนี้ คนไข้เด็กทั่วประเทศทั้งรพ.รัฐ เอกชน คลินิก รพ.สต. ป่วยด้วย ไข้หวัด หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบจาก เชื้อไวรัส RSV (อาร์เอสวี) เยอะมากๆ แน่นทุก รพ.
ลักษณะอาการไข้ ไอ เสมหะ น้ำมูก บางรายอาการหนักมี หอบเหนื่อย หายใจมีเสียงหวีด หลักการมี 3 S คือ Swelling หลอดลมบวม ตีบแคบ ทำให้หายใจหอบเหนื่อย ลมเข้าปอดได้ แต่ออกลำบาก เด็กจึงต้องหายใจเร็วและแรง ใช่กล้ามเนื้อกระบังลมช่วยหายใจ, Spasm หลอดลมไวและตีบได้ ไวต่อสิ่งกระตุ้น และ Secretion สารคัดหลั่งในหลอดลมมาก และอุดหลุดลม หายใจลำบาก ต้องดูดเสมหะช่วย บางรายรุนแรง เขียว หายใจล้มเหลว ต้องให้ออกซิเจน หรือใส่ท่อช่วยหายใจใน icu กลุ่มเสี่ยง เด็กเล็กอายุน้อยกว่า 5 ปี ยิ่งอายุน้อยยิ่งรุนแรง คลอดก่อนกำหนด มีโรคประจำตัวเช่น ปอด หัวใจ
การรักษา ตามอาการ ไม่มียาต้านไวรัสเฉพาะ ทั้งกินและฉีด ไม่มีวัคซีน การรักษาคือ พ่นยา ดูดเสมหะ ให้ออกซิเจน ให้สารน้ำ ยาลดไข้ การพยากรณ์โรค มีตั้งแต่ไม่รุนแรง หวัด ไอ น้ำมูกจนไปถึง ปอดอักเสบ หายใจล้มเหลว ไวรัสตัวนี้ หายดีแล้ว มีโอกาสเป็นซ้ำ ร่วมกับถ้ามีประวัติภูมิแพ้ในครอบครัว พ่อหรือแม่ อนาคต เด็กอาจจะเป็นโรคหอบหืดตามมาได้
การป้องกัน ที่พอจะช่วยได้
1)หลีกเลี่ยงไปชุมชนคนเยอะหรือ เลี่ยงการอยู่ใกล้ผู้ใหญ่ และเด็กที่ป่วยถ้าป่วยต้องอยู่บ้าน หยุดเรียน พบแพทย์
2)วัคซีนโรคอื่นๆ ที่ป้องกันพบร่วมได้ เช่น ไข้หวัดใหญ่ วัคซีนไอพีดี เป็นทางเลือกสามารถฉีดได้
3)รักษาความอบอุ่นของร่างกาย ช่วงนี้อากาศเย็น หนาว ไวรัสชอบ
4)คนมีโรคประจำตัวเช่น หอบหืด โรคหัวใจ โอกาสติด RSV แล้วอาการรุนแรงกว่าเด็กทั่วไป ต้องระวัง อย่าขาดยาประจำ ป่วยรีบมาพบแพทย์
5)ล้างมือ สวมหน้ากาก รักษาระยะห่าง ป้องกัน RSV ไข้หวัดใหญ่ ปอดอักเสบได้ มาตรการเดียวกับป้องกันโรคโควิด-19
ให้กำลังใจผู้ปกครองและเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ ดูดเสมหะ พ่นยาวนไป