บริการรถไฟสายนี้มีชื่อว่า " รถไฟลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ " หรือ (L&M) มันเปิดให้บริการวันแรกเมื่อ 15 กันยายน 2373 โดยงานก่อสร้างทางรถไฟสายนี้เริ่มมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1820 เพื่อเชื่อมโยงเมืองอุตสาหกรรมสำคัญอย่างแมนเชสเตอร์ กับท่เารือน้ำลึกที่ใกล้ที่สุด ซึ่งก็คือท่าเรือลิเวอร์พูล ที่อยู่ห่างกัน 56 กิโลเมตร
แม้ว่าในช่วงนั้นจะมีรถไฟที่ใช้ม้าลากทั่วประเทศ และแหล่งอุตสาหกรรมบางแห่งก็มีการใช้หัวรถจักรไอน้ำแบบพื้น ๆ มาลากรถ แต่ L&M เป็นรถไฟสายแรกที่ใช้หัวรถจักร เพื่อเชื่อมโยง 2 เมืองสำคัญเข้าด้วยกัน และครั้งนี้ ก็เป็นการออกให้บริการผู้โดยสารตามกำหนดเวลาครั้งแรก
วันที่เปิดให้บริการถือเป็นเหตุการณ์สำคัญ อาเธอร์ เวลเลสลี่ย์ ดยุคแห่งเวลลิงตัน นายกรัฐมนตรีก็มาร่วมงาน และได้ร่วมนั่งไปกับรถไฟหนึ่งใน 8 ขบวนที่ออกมาวิ่งเป็นครั้งแรก พร้อมกับคนดัง และแขกคนสำคัญคนอื่น ๆ ของงาน ผู้คนมายืนเรียงรายกันข้างทางรถไฟที่ลิเวอร์พูล เพิ่มชมขบวนรถไฟที่จะออกไปยังเมืองแมนเชสเตอร์
ขบวนรถไฟออกจากลิเวอร์พูลตามกำหนดเวลา ไม่มีปัญหาทางเทคนิคแต่ประการใด โดยขบวนรถไฟของนายกรัฐมนตรีเล่นในรางหนึ่ง ส่วนรถไฟอีก 7 ขบวนแล่นในอีกรางหนึ่งที่วางคู่ขนานกันไป บางช่วง รถไฟในทั้งสองรางนี้ ต่างก็พลัดกันแซงไปมา
เมื่อออกมาจากลิเวอร์พูลได้ประมาณ 21 กิโลเมตร ก็เกิดปัญหาครั้งแรก เมื่อรถไฟขบวนหนึ่งเกิดตกราง และถูกอีกขบวนหนึ่งพุ่งชน แต่ไม่มีใครบาดเจ็บ หลังจากที่ช่วยกันยกรถกลับขึ้นราง การเดินทางก็ดำเนินต่อไป
ที่สถานีรถไฟพาร์คไซด์ ใกล้กับจุดกึ่งกลางของเส้นทาง หัวรถจักรได้เข้าจอดเพื่อเติมน้ำ แม้ทางรถไฟจะแนะนำให้ผู้โดยสารอยู่ในรถ บรรดาคนดัง และแขกคนสำคัญ ได้ลงมาจากรถไฟเมื่อขบวนของนายกรัฐมนตรีมาถึง หนึ่งในจำนวนนั้นก็คือวิลเลียม ฮัสคิสสัน อดีตคณะรัฐมนตรีและสมาชิกรัฐสภาจากลิเวอร์พูล เขาเป็นผู้ที่มีอิทธิพลอย่างสูงในการสร้างจักรวรรดิ์อังกฤษ และเป็นผู้วางเค้าโครงเรื่องการค้าเสรี แต่มีปัญหากับนายกรัฐมนตรีและได้ลาออกจากคณะรัฐมนตรี แต่ด้วยความหวังที่จะคืนดีกับนายกรัฐมนตรี เขาจึงเดินไปที่ตู้รถไฟของนายกรัฐมนตรีเพื่อจับมือทักทาย โดยไม่ได้สังเกตว่าบนรางที่ว่างอยู่ รถไฟอีกขบวนกำลังใกล้เข้ามา เมื่อเห็นว่ารถไฟเข้ามาใกล้มากแล้ว เขาก็เกิดตกใจ จึงพยายามปีนขึ้นตู้รถไฟของนายกรัฐมนตรี แต่ปรากฏว่าประตูรถได้เหวี่ยงออกมา เขาจึงห้อยตัวอยู่ในเส้นทางของรถไฟอีกขบวน เขาตกลงไปบนรางรถไฟที่ด้านหน้ารถ และได้รับบาดเจ็บที่ขาอย่างรุนแรง และเสียชีวิตในคืนวันนั้น
หลังเกิดอุบัติเหตุ ตอนแรก นายกรัฐมนตรีอยากจะยกเลิกกำหนดการณ์ที่เหลือ และเสนอให้เดินทางกลับลิเวอร์พูล แต่คนที่มารอดูรถไฟที่แมนเชสเตอร์ที่มีเป็นจำนวนมากเริ่มไม่พอใจที่รถไฟยังไม่มาตามกำหนดเวลาและเกรงว่าอาจจะเกิดจลาจลได้ เขาจึงได้เดินทางต่อไปยังแมนเชสเตอร์ แต่เมื่อต้องเจอกับอารมณ์ดุเดือดของประชาชนที่แมนเชสเตอร์ ที่เอาผักมาขว้างปา นายกรัฐมนตรีจึงไม่ลงจากรถ และสั่งให้รถไฟเดินทางกลับลิเวอร์พูล แต่ปรากฏว่าเกิดปัญหาทางเทคนิค รถไฟขบวนอื่น ๆ อีกหลายขบวน กลับหัวรถจักรไม่ได้ หัวรถจักร 3 หัวที่กลับรถได้ จึงช่วยกันลากตู้รถไฟ 24 ตู้กลับลิเวอร์พูลอย่างช้า ๆ ใช้เวลาขากลับไป 6 ชั่วโมงครึ่ง
การตายของฮัสคิสสัน ทำให้ข่าวเรื่องการเปิดการเดินรถไฟ แพร่ไปทั่วโลก และทำให้โลกได้รู้ว่าบริการการเดินทางขนส่งระยะไกล ราคาถูกและรวดเร็ว ได้เปิดฉากขึ้นแล้ว