นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อเป็นการป้องกันโรค ให้กับกลุ่มผู้ประกันตนสูงอายุที่เป็นกลุ่มเสี่ยงอายุ 50 ปีขึ้นไป และ ลดภาระการรักษาของบุคลากร ทางการแพทย์ โดยคณะกรรมการประกันสังคมมีมติเห็นชอบประกาศคณะกรรมการการแพทย์ ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม เรื่องหลักเกณฑ์และอัตราค่าส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค สำหรับประโยชน์ทดแทน ในกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยอันมิใช่เนื่องจากการทำงาน พ.ศ.2563
โดย นายแพทย์ ชาตรี บานชื่น ประธานคณะกรรมการการแพทย์ สำนักงานประกันสังคม ลงนาม ในประกาศฯ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2563 โดยมีสาระสำคัญในประกาศฉบับนี้ คือให้สิทธิผู้ประกันตนที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป สามารถได้รับบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ชนิด 3 สายพันธุ์ หรือ 4 สายพันธุ์ ณ สถานพยาบาลที่สำนักงานประกันสังคมกำหนดปีละ 1 ครั้ง โดยจะจ่ายให้แก่สถานพยาบาลที่สำนักงานประกันสังคม กำหนดในอัตราอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ชนิด 3 สายพันธุ์ ในอัตรา 250 บาท ต่อคนต่อปี และวัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิด 4 สายพันธุ์ ในอัตรา 450 บาท ต่อคนต่อปี โดยผู้ประกันตนสามารถไปใช้สิทธิได้ ณ สถานพยาบาลที่สำนักงานประกันสังคมกำหนดให้บริการฉีดวัคซีนดังกล่าวได้ ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป
เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวต่อไปว่า กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม มีความมุ่งมั่น และทุ่มเทการทำงาน โดยยึดหลักการดำเนินงานภายใต้แนวทางของ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในการบูรณาการงานด้านบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ เกิดความเหมาะสมเท่าเทียม รวมทั้งให้ความช่วยเหลือผู้ประกันตนที่ได้รับความเดือดร้อนในทุกสถานการณ์อย่างทันท่วงที พร้อมติดตามสถานการณ์นั้นอย่างใกล้ชิด และรับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นจากผลกระทบ ภาวะวิกฤต โควิด-19 ในทุกด้านเพื่อหาแนวทางกำหนดมาตรการแก้ไขให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลง ที่เกิดขึ้นต่อไป
ขอให้ผู้ประกันตนมั่นใจว่าสำนักงานประกันสังคมจะดูแลผู้ประกันตน และพร้อมพัฒนางาน ด้านประกันสังคมให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องบนพื้นฐานปรัชญาการพัฒนาแบบยั่งยืน เพื่อให้เกิด ความมั่นคงต่อชีวิตและสุขภาพของผู้ประกันตนต่อไป