การเสียชีวิตส่วนใหญ่ เกิดขึ้นใกล้ ๆ กับเมืองกัลเวสตัน รัฐเท็กซัส หลังจากที่เกิดสตอร์มเซิร์จตามแนวชายฝั่ง สูงระหว่าง 8-12 ฟุต
พายุยังทำให้อาคารบ้านเรือนในกัลเวสตันพังไปราว 7,000 หลัง ในจำนวนนั้นเป็นบ้านเรือน 3,636 หลัง ทุกชุมชนในเมืองต่างก็ได้รับความเสียหายทั้งหมด เพียงแต่ว่าอยู่ในระดับที่แตกต่างกัน ทั้งยังทำให้ชาวเมืองราว 10,000 คนกลายเป็นคนไร้ที่อยู่อาศัยในทันที จากประชากรทั้งเมืองที่มีอยู่ราว 38,000 คน
พายุครั้งนี้ถือเป็นการปิดฉากยุคทองของกัลเวสตัน ( Golden Era of Galveston ) เพราะมันทำให้บรรดานักลงทุน ตัดสินใจหันไปลงทุนที่เมืองฮูสตันแทน
ผลของพายุ ทำให้วิศวกรคิดแผนป้องกันภัยพิบัติในอนาคตโดยการยกระดับแนวชายฝั่งด้านอ่าวเม็กซิโกของเมืองกัลเวสตันให้สูงขึ้น 5.2 เมตร และสร้างแนวกำแพงทะเลยาว 16 กิโลเมตร
พายุลูกนี้ ถูกพบครั้งแรกเมื่อ 27 สิงหาคม 2443 โดยตอนแรกมันมีสถานะเป็นแค่พายุโซนร้อน 3 วันต่อมา มันได้เข้าสู่ทะเลแคริบเบียน และอีก 3 วันต่อมามันก็ขึ้นฝั่งที่สาธารณรัฐโดมินิกันในฐานะพายุโซนร้อนที่มีกำลังอ่อน ก่อนจะพัดกลับลงทะเลแคริบเบียนอีกครั้ง วันที่ 3 กันยายน มันเข้าถล่มคิวบา แต่เมื่อมันมาถึงอ่าวเม็กซิโก ในวันที่ 6 กันยายน มันเพิ่มกำลังมากขึ้นจนกลายเป็นเฮอริเคน และวันที่ 8 กันยายน มันก็มีรุนแรงระดับ 4 โดยมีกำลังลมสูงสุด 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และขึ้นฝั่งทางใต้ของเมืองฮูสตัน รัฐเท็กซัส ก่อนที่จะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็ว แต่ปรากฏว่ามันได้สร้างความเสียหายให้กับเมืองกัลเวสตันอย่างหนักไปเรียบร้อยแล้ว