เครื่องบินล่องหนนี้ถูกถ่ายภาพได้ตอนที่มันกำลังใช้อาฟเตอร์เบิร์นเนอร์ ขณะไต่ระดับความสูง พร้อมกับมองเห็นโลโก้ของเอเวียชั่น อินดัสตรี คอร์ปอเรเชั่น ออฟ ไชน่า (AVIC) รัฐวิสาหกิจของจีน อย่างชัดเจนบริเวณส่วนหางของเครื่องบิน
เครื่องบินยังคงใช้เครื่องยนต์ทวินเเทอร์โบแฟน WS-13 ของ FC-31 รุ่นเก่า ซึ่งเครื่องยนต์นี้มีพื้นฐานการออกแบบมาตั้งแต่สมัยสหภาพโซเวียต ยุคทศวรรษ 1970 และถูกมองว่ามีข้อจำกัดทั้งในแง่การปฏิบัติภารกิจของเครื่องบินขับไล่และศักยภาพในการล่องหน
สำหรับ FC-31 ไจเออร์ฟอลคอน เป็นเครื่องบินล่องหนตัวที่ 2 ที่จีนพัฒนาขึ้นเอง ต่อจาก J-20 โดยมันขึ้นบินในเที่ยวบินปฐมฤกษ์เมื่อปี 2555 และเคยไปปรากฏตัวอยู่ตามงานแสดงอากาศยานหลายงาน ในความหวังดึงดูดผู้ซื้อต่างชาติ โดยทางเอเวียชั่น อินดัสตรี คอร์ปอเรเชั่น ออฟ ไชน่า หวังว่ามันจะเป็นผู้ท้าชิงของ F-35 ของล็อกฮีด มาร์ติน บริษัทสัญชาติสหรัฐฯ
นักวิเคราะห์ ชี้ว่าผู้พัฒนาได้ปรับเปลี่ยนโฟกัสหันไปมุ่งเน้นเครื่องบินขับไล่ล่องหน เพื่อใช้ปฏิบัติการทางทะเล เครื่องบินขับไล่ล่องหนใหม่ FC-31 ไจเออร์ฟอลคอน อาจเหมาะกับเรือบรรทุกเครื่องบินยุคใหม่ของกองทัพเรือจีน โดยคาดหมายกันว่าเรือบรรทุกเครื่องบินยุคถัดไปของจีนจะมีระบบดีดส่งอากาศยานและจำเป็นต้องมีเครื่องบินล่องหนที่มีความล้ำสมัยมากกว่า J-15 ซึ่งเป็นเครื่องบินขับไล่รุ่นเดียวที่ประจำการอยู่บนเรือบรรทุกเครื่องบินในเวลานี้
สำหรับ FC-31 ไจเออร์ฟอลคอน มีน้ำหนักเทคออฟสูงสุด 25 ตัน มีพิสัยประจัญบาน 1,200 กิโลเมตร และทำความเร็วสูงสุดได้ 1.8 มัค หรือ 2,205กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนทาง F-35 ของค่ายล็อกฮีด มาร์ติน บริษัทสัญชาติสหรัฐฯ มีน้ำหนักเทคออฟสูงสุด 27 ถึง 32 ตัน มีพิสัยประจัญบานสูงสุด 2,200 กิโลเมตร และความเร็วสูงสุด 1.6 มัค ทั้งนี้ FC-31 สามารถบรรทุกอาวุธได้ 8 ตัน ส่วน F-35 ของสหรัฐฯ บรรทุกได้ 6.8 ตัน
สถาพร เกื้อสกุล
8-9-2563