svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ขอรับสอบเองปมตบทรัพย์อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล

"เทพไท เสนพงศ์" เตรียมหารือประธาน กมธ.กิจการสภาผู้แทนราษฎร รับดำริ "ชวน หลีกภัน" สอบปมตบทรัพย์อธิบดีกรมทัพยากรน้ำบาดาล ยอมรับที่ผ่านมามีซุบซิบในหมู่ ส.ส.มาตลอด ลั่นถึงเวลาต้องสะสาง

(13 สิงหาคม 2563) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะรองประธานกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า กระแสข่าวมี ส.ส.บางคน ในอนุกมธ.ไปตบทรัพย์จากอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล และเรื่องนี้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะส่งมอบเรื่องนี้ให้กมธ.กิจการสภาฯ เป็นผู้ตรวจสอบ ซึ่งตนในฐานะที่เป็นกมธ.คณะนี้ จะได้มีการหารือกับนายอนันต์ ผลอำนวย ประธาน กมธ.กิจการสภาฯ ซึ่งคาดว่า ประธาน กมธ. เกรงใจการที่จะสอบเรื่องแบบนี้

ทั้งนี้ แต่เมื่อนายชวนมีดำริมา ก็ถือว่าเป็นหน้าที่ของ กมธ.โดยตรง ที่จะต้องดำเนินการเรื่องที่เกี่ยวกับความไม่ชอบมาพากล หรือเหตุการณ์อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในสภาฯ และเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวคงจะไม่ยากในการตรวจสอบ เพราะไม่มีอะไรซับซ้อน ตัวละครที่เกี่ยวข้องก็มีไม่กี่คน กมธ.ก็อาจจะเชิญอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล และคณะอนุ กมธ.ทั้งหมดมาสอบถาม โดยคิดว่าน่าจะได้ผลสรุปโดยเร็ว

"เห็นว่าเรื่องและกระแสข่าวแบบนี้ เป็นเรื่องที่ความจริงที่เกิดขึ้นได้ เพราะที่ผ่านมามีการซุบซิบนินทากันในหมู่ ส.ส. มาโดยตลอดว่า มีการตั้งแก๊ง ตั้งก๊วน เพื่อที่จะไปตบทรัพย์หาประโยชน์จากการพิจารณา กมธ.งบประมาณฯ เพราะเห็นได้ว่าบางคน อยากเป็น กมธ.ชุดนี้จนแบบตัวสั่น ไม่ได้เป็นก็ออกมาโวยวาย" นายเทพไท กล่าว

นอกจากนี้ บางคนก็ทำตัวเป็นมืออาชีพ จองคิวเป็น กมธ.โดยตลอด ซึ่งคนที่เป็น กมธ.งบประมาณฯ ก็มีบทบาทสำคัญ และเป็นที่เกรงกลัวของข้าราชการระดับสูง ระดับอธิบดี ระดับเจ้ากระทรวง เพราะคนเหล่านี้เวลาพิจารณาก็จะแบ่งทีมกันทำงาน เช่น ไปล็อบบี้นอกวง เพื่อจะเอางบประมาณไปลงในเขตพื้นที่ตัวเอง บางส่วนก็ทำหน้าที่ตัดงบประมาณในที่ประชุม หรือว่าแขวนงบประมาณ ไปถึงการต่อรองเอาโครงการเพื่อที่จะทำรับเหมา ซึ่งปรากฎการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอยู่ประจำ แต่เพียงที่ผ่านมาก็ไม่มีใครพูดเรื่องนี้ขึ้นมา รอบนี้ก็มีอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้พูดขึ้นมา เลยทำให้เป็นที่สนใจของประชาชน

อย่างไรก็ตาม ตนเป็น ส.ส.มาหลายสมัย และเป็นนักการเมืองมาเกือบ 20 ปี และไม่เคยเป็น กมธ.งบประมาณ ก็น่าจะตรวจสอบเรื่องนี้ได้อย่างตรงไปตรงมา และคิดว่าถึงเวลาที่จะสะสาง กวาดล้างพวกหาประโยชน์หรือแอบแฝงอยู่ใน กมธ.งบประมาณฯ ที่พยายามจะทำตัวเป็นเจ้าพ่องบประมาณ และทำแบบนี้มาทุกๆปี คิดว่าครั้งนี้น่าจะเป็นโอกาสที่จะทำให้กระจ่าง และจะนำเรื่องนี้เสนอต่อประธานสภาฯ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

นายเทพไท กล่าวด้วยว่า แต่การลงโทษหรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่ กมธ.ชุดนี้ แต่ไปอยู่ที่องค์กรอื่น เพียงแต่ว่าสามารถนำข้อมูลที่รวบรวมได้นำเสนอประธานสภาฯ เพื่อนำเสนอต่อไปที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือคณะกรรมการจริยธรรม ซึ่งก็แล้วแต่ดุลพินิจของประธาน

ส่วนที่นายชวน รบุว่า นายอนันต์ ไม่รับทำกรณีนี้นั้น โดยหลายครั้ง ประธานก็เกรงใจ ทุกครั้งก็จะปฏิเสธ ก็กลัวว่าจะมีผลกระทบ แต่ตนคิดว่าเรื่องนี้ก็จะคุยกับประธาน กมธ. ว่าเป็นภาระหน้าที่ของ กมธ. ดีกว่าไมปมอบให้ กมธ.ชุดอื่นๆ ที่ไม่มีหน้าที่โดยตรงทำ ซึ่งต่างกันที่ประธาน กมธ.ชุดนี้ ไม่อยากทำ ประธานชุดอื่นไม่มีหน้าที่แต่อยากทำ ดังนั้น ต้องคุยบทบาทหน้าที่ของ กมธ.แต่ละชุดว่ามีหน้าที่อย่างไร จะปฏิเสธความรับผิดชอบในหน้าที่ไม่ได้ ต้องทำ ทำได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น