ลุงแขก หรือนายเมตตา เกษเพชร ในวัย 67 ปี เป็นผู้พิการทางสายตามาตั้งแต่อายุ 4 ขวบ โดยในปี 2518 ลุงแขกเริ่มทำงานเป็นลูกจ้างประจำส่วนราชการ ตำแหน่งพนักงานห้องมืด ทำหน้าที่ล้างฟิล์มเอกซเรย์ ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แม้ในปัจจุบันลุงแขกจะเกษียณมาตั้งแต่ปี 2556 และใช้ชีวิตอย่างสมถะในบั้นปลายของชีวิตกับครอบครัวย่านสะพานใหม่ กรุงเทพมหานคร โดยตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้การใช้ชีวิตของลุงแขกเปลี่ยนไปจากเดิม เนื่องจากต้องระมัดระวังการติดเชื้อโควิด-19 เป็นพิเศษ ลุงแขกเล่าต่อว่าหลังจากเกษียณ ยังใช้เวลาว่างในการหารายได้เสริมด้วยการขายล็อตเตอร์รี่ แต่ปัจจุบันก็ไม่สามารถขายล็อตเตอร์รี่ได้ดังเดิม และต้องเก็บตัวอยู่ภายในบ้านพัก เพื่อตอบสนองตามนโยบายของภาครัฐในการหยุดเชื้อเพื่อชาติ
ด้านนางประไพ เกษเพชร ภรรยาของลุงแขก ที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมานานถึง 41 ปี ยอมรับว่าคนพิการทางสายตา คือบุคคลที่สุ่มเสี่ยงการติดเชื้อมากที่สุดกลุ่มหนึ่ง เนื่องจากต้องใช้การสัมผัสในชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ นายพิทยา ศรีโกตะเพ็ชร ที่ปรึกษาสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าปัจจุบันมีผู้พิการทางสายตาก 200,000 คน โดยกว่าครึ่งหนึ่งเป็นผู้สูงอายุ จึงต้องให้ความสำคัญเป็นกรณีพิเศษ จึงได้จัดโครงการช่วยเหลือคนตาบอดสู้ภัยโควิด-19 ขึ้น
เช่นเดียวกับนายยศพนธ์ สุมนวีระวงศ์ เมื่อทราบข่าวการรับบริจาคก็ได้เดินทางมาร่วมบริจาคเช่นกัน เพื่อหวังส่งต่อความช่วยเหลือไปให้ถึงกลุ่มผู้พิการทางสายตาด้วยเช่นกัน ท้ายที่สุดอย่าลืมว่าคนตาบอดลำบากกว่าเราสองเท่า โดยทุกท่านสามารถร่วมบริจาคหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ได้ที่สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศ ถ.ดินแดง เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร