จับ ชรบ.หมู่บ้าน จุดไฟเผาป่าดอยหลวง

นายอิสระ ศิริไสยาสน์ ผอ.ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักอนุรักที่ 16 ได้รับรายงานจากนายประกาศิต ระวิวรรณ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาวว่าเมื่อเวลาประมาณ 21.15 น.วันที่ 2 เมษายน คณะพนักงานเจ้าหน้าที่สายตรวจส่วนกลางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว นำโดยนายประกาศิต ระวิวรรณ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าเชียงดาว ได้ร่วมดับไฟป่า บริเวณด้านหลังม่อนพระจันทร์ทรงกลดและกำลังควบคุมไม่ให้ลุกลาม เมื่อคืนวันที่ 1 เม.ย. ซึ่งสามารถควบคุมไฟให้อยู่ในแนวกันไฟไว้ได้

ที่เกิดเหตุพบว่ามีจุดไฟเผาป่าบริเวณด้านล่างของยอดเขา ทำให้ไฟลุกลามเข้าหาเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติงานอยู่บนยอดเขา ทำให้เจ้าหน้าที่เร่งระดมคนเข้าไปสกัดไฟดังกล่าวอย่างเร่งด่วน และเร่งหาตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ
ต่อมา เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนได้มีชาวบ้านถ่ายภาพส่งมาให้ พบว่าคนที่จุดไฟเผาที่ทำให้ลุกลาม เชื่อว่าเป็นฝีมือของนายบุญปั๋น แสนคำหมื่น จึงได้เชิญตัวมาสอบสวนเบื้องต้นเมื่อเย็นวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา

จากการสอบสวนพบว่านายบุญปั๋น แสนคำหมื่น อายุ 56 ปี เป็นชุด ชรบ. ประจำหมู่บ้านถ้ำมาช่วยดับไฟป่า ได้จุดเผาไฟบริเวณป่าหลังรีสอร์ทบ้านแสนคัม หมู่ 5 ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ พิกัดที่ 47Q 0492527 E 2143886 N ในวันเกิดเหตุจริง และยอมรับสารภาพว่าได้จุดไฟเผาป่าจริง โดยนายบุญปั๋นนั้นเปิดเผยว่า เป็นเรื่องความไม่เข้าใจกันของทีมดับไฟป่า ซึ่งตนนั้นนึกว่าต้องทำแนวกันไฟ จึงเผาพื้นที่ด้านล่างจนไฟนั้นลามขึ้นไปหาทีมที่ดับไฟป่าด้านบนเขา จนเป็นเหตุดังกล่าว
จากการสอบสวนนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ลงความเห็นว่า นายบุญปั๋น ได้กระทำไปโดยไม่มีคำสั่งให้จุดหรือเผา จากศูนย์อำนวยการควบคุมไฟป่า ที่เกิดขึ้นในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบบริเวณจุดเผาจากศูนย์อำนวยการควบคุมไฟป่า ที่เกิดขึ้นในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบบริเวณจุดเผาไฟพบว่าอยู่นอกพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ตามพ.ร.บ.สาธารณสุข มาตรา 25 (ข้อ 4) ฐานการกระทำใดๆ อันเป็นเหตุให้เกิดกลิ่น แสง รังสี เสียง ความร้อน สิ่งมีพิษ ความสั่นสะเทือน ฝุ่น ละออง เขม่า เถ้า หรือกรณีใดอื่นใด จนเป็นเหตุให้เสื่อมหรืออาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ คุมตัวส่งให้ พนักงานสอบสวนสภ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เปรียบเทียบปรับตามกฎหมายก่อนปล่อยตัวไป