svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

"เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช" ล่องสู่น่านน้ำไทยแล้ว

เมื่อวันที่ 5 ม.ค.61 กองทัพเรือ โดย พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้จัดเรือหลวงตากสิน หมาญเลข 422 เรือหลวงนเรศวร หมายเลข 421 เรือหลวงรัตนโกสินทร์ หมายเลข 441 และอากาศยาน 2 ลำ เป็นหมู่เรือในการให้การต้อนรับ "เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช" เรือฟริเกตสมรรถนะสูงลำใหม่ แห่งราชนาวีไทย ที่เดินทางกลับจากประเทศเกาหลีใต้ เข้าสู่น่านน้ำราชอาณาจักรไทย อย่างสมเกียรติ


สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชานุญาติ และวินิจฉัยชื่อ เรือหลวงลำใหม่ ที่ต่อจากประเทศเกาหลีใต้นี้ว่า "เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช" จะเดินทางมาถึงประเทศไทย อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ในวันที่อาทิตย์ที่ 6 ม.ค.62 ซึ่งกองทัพเรือจะจัดพิธีต้อนรับ และขึ้นระวางประจำการ ในวันจันทร์ที่ 7 ม.ค.62 โดยมี พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เป็นประธานในพิธี ณ ท่าเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี



\"เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช\" ล่องสู่น่านน้ำไทยแล้ว



เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เรือรบลำใหม่ของไทย เป็นเรือฟริเกตสมรรถนะสูง สร้างโดยบริษัท DSME.(DAEWOO Shipbuilding & Marine Engineering CO., LTD.) ของเกาหลีใต้ ภายหลังได้มีการออกแบบตรงกับความต้องการของกองทัพเรือ ตามแนวทางการจัดหายุทโธปกรณ์หลัก สามารถตอบสนองทุกภารกิจกองทัพเรือมากที่สุด มีการพัฒนามาจากเรือพิฆาตชั้น Kwanggaeto Class Destroyer (KDX-I) โดยใช้มาตรฐานทางทหารของสหรัฐฯ และกองทัพเรือเกาหลีใต้ในการต่อเรือ มีระวางขับน้ำสูงสุด 3,700 ตัน ความเร็วสูงสุดต่อเนื่อง 30 นอต ระยะปฏิบัติการประมาณ 4,000 ไมล์ทะเล ทนทะเลได้ถึงสภาวะระดับ 6 ขึ้นไป มีกำลังพลประจำเรือ 136 นาย



\"เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช\" ล่องสู่น่านน้ำไทยแล้ว



โครงสร้างเรือแข็งแรง มีโอกาสอยู่รอดสูงในสภาพแวดล้อมของการสู้รบ และการปนเปื้อนทางนิวเคลียร์ เคมี ชีวะ สามารถตรวจการครอบคลุมทุกมิติทั้งกลางวันและกลางคืน เนื่องจากมีการติดตั้งระบบอำนวยการรบ และระบบตรวจการณ์ที่ทันสมัย รวมทั้งสามารถเชื่อมโยงข้อมูลและสื่อสารกับเรือ อากาศยาน และหน่วยบนฝั่ง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ



\"เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช\" ล่องสู่น่านน้ำไทยแล้ว



อีกทั้ง ยังมีสามารถปฏิบัติการรบได้ทั้ง 3 มิติ ผิวน้ำ ใต้น้ำ และทางอากาศ โดยการปฏิบัติการสงครามใต้น้ำ สามารถตรวจจับเป้าหมายระยะไกลด้วยโซนาร์ลากท้าย และโซนาร์ติดใต้ท้องเรือ แล้วต่อตีเรือดำน้ำได้ที่ระยะไกลด้วย Vertical Launch Anti-Submarine Rocket หรือตอร์ปิโด ส่วน การปฏิบัติการสงครามต่อต้านภัยทางอากาศ ใช้เรดาร์ตรวจการณ์ 3 มิติระยะไกล และระยะปานกลาง ในการค้นหา ตรวจจับ และติดตามเป้าข้าศึก โจมตีเป้าหมายด้วยอาวุธปล่อยนำวิถีฯ แบบ ESSM และอาวุธปืนของเรือ



\"เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช\" ล่องสู่น่านน้ำไทยแล้ว


ขณะที่การป้องกันทางอากาศระยะไกล (ผิวน้ำ) หรือพื้นที่ชั้นนอกของกองเรือ (Battle Group) จะใช้การปฏิบัติการร่วมกับอากาศยานของกองทัพอากาศในการค้นหา ตรวจจับและโจมตี และการปฏิบัติการสงครามผิวน้ำ โดยสามารถโจมตีเป้าหมายได้ที่ระยะไกล โดยปฏิบัติร่วมกับเรือและอากาศยานในการพิสูจน์ทราบเป้า ส่งมอบเป้าและให้ใช้อาวุธจากระยะพ้นขอบฟ้า รวมทั้งโจมตีเป้าพื้นน้ำและใต้น้ำด้วยเฮลิคอปเตอร์ประจำเรือ



\"เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช\" ล่องสู่น่านน้ำไทยแล้ว



ด้านการป้องกันตนเองนั้น จะโจมตีด้วยอาวุธปล่อยนำวิถี ปืนใหญ่เรือ และปืนรองต่อสู้อากาศยาน ระบบอาวุธป้องกันระยะประชิด (CIWS) ระบบลวงทางอิเล็กทรอนิกส์ ระบบควบคุมความเสียหายแบบรวมการที่สั่งการได้จากศูนย์กลางหรือแยกสั่งการ มีระบบควบคุมการแพร่สัญญาณออกจากตัวเรือ อีกทั้งสามารตรวจจับ ดักรับ วิเคราะห์ และก่อกวนสัญญาณแม่เหล็กไฟฟ้าของเป้าหมายได้



\"เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช\" ล่องสู่น่านน้ำไทยแล้ว



นอกจากนี้ เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช ยังสามารถใช้ในการปฏิบัติการรบร่วม โดยผ่านระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธี ให้สามารถปฏิบัติการรบร่วมในลักษณะกองเรือ (Battle Group) ได้แก่ ร.ล.จักรีนฤเบศร เรือฟริเกต ชุด เรือหลวงนเรศวร เรือคอร์เวต ชุด เเรือหลวงรัตนโกสินทร์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการปฏิบัติการรบร่วมกับ เครื่องบินกองทัพอากาศ ตามบทบาทหน้าที่ที่จะได้รับมอบหมาย ซึ่งเรือฟริเกตสมรรถนะสูง จะทำหน้าที่ควบคุมการปราบเรือดำน้ำเป็นหลัก



\"เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช\" ล่องสู่น่านน้ำไทยแล้ว


ด้วยศักยภาพและสมรรถนะที่แข็งแกร่งของ เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช กองทัพเรือจะนำไปใช้ในภารกิจสงคราม ป้องกันอธิปไตยเหนืออาณาเขตทางทะเลของไทย รวมถึงการคุ้มกันกระบวนเรือลำเลียง และนอกเหนือจากนั้น ในยามสงบจะดูแลรักษาความมั่นคง และความปลอดภัยของเส้นทางคมนาคมทางทะเล พิทักษ์รักษาสิทธิอธิปไตยทางทะเล ค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และบรรเทาภัยพิบัติ