เผยผลวิจัย ดื่มกาแฟมากเกินไป เสี่ยงต่ออาการ "สมองเสื่อม"
เชื่อว่า อาจจะมีคอกาแฟหลายๆ คนที่อาจจะดื่ม กาแฟมากถึงวันล่ะ 2-3 แก้ว จนกลายเป็นเรื่องปกติ ส่วนใหญ่ก็จะเริ่มต้นในทุกๆ เช้า จะดื่มกาเเฟ กันเป็นเรื่องปกติ จะได้ตื่นตัวสดชื่นกระปรี้กระเปร่า
แต่คอกาแฟที่รักรู้หรือไม่ว่า การดื่มกาแฟมากเกินไปนั้น อาจจะส่งผลร้ายต่อสมองได้
โดยงานวิจัยที่เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ Nutritional Neuroscience เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2564 ระบุไว้ว่า
เราไม่ควรดื่มกาแฟมากกว่า 5-6 แก้วต่อวัน เพราะอาจทำร้ายสมองได้ โดยรวบรวมข้อมูลจากคนราว 400,000 คนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ (ทั้งแบบมีคาเฟอีน และแบบดีแคฟ ไม่มีคาเฟอีน) แบ่งกลุ่มทดลองออกเป็นหลายกลุ่ม ทั้งกลุ่มที่ดื่มแก้วเดียว ไปจนถึงกลุ่มที่ดื่มมากถึง 6 แก้วต่อวัน และนำคนประมาณ 18,000 คนมาสแกนสมองผ่านเครื่อง MRI
หลังจากติดตามข้อมูลอยู่นาน 11 ปี นักวิจัยพบว่า เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่ดื่มกาแฟน้อยกว่า (1-2 แก้วต่อวัน) แล้ว คนที่ดื่มกาแฟหนัก (มากกว่า 6 แก้วต่อวัน) มีความเสี่ยงที่จะมีขนาดสมองเล็กลงมากกว่า โดยเฉพาะสมองส่วนฮิปโปแคมปัส (hippocampus) ซึ่งเป็นส่วนที่ทำหน้าที่รักษาความทรงจำทั้งระยะสั้นและระยะยาว
คนที่ดื่มกาแฟหนักยังมีความเสี่ยงต่อการถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคสมองเสื่อมมากกว่าคนที่ดื่มกาแฟเพียงเล็กน้อยถึง 53% โดยไม่เกี่ยงว่าจะเป็นกาแฟแบบมีคาเฟอีน หรือไม่มีคาเฟอัน (ดีแคฟ) ก็ตาม
แม้ว่า นักวิจัย จะยังไม่พบหลักฐานแน่ชัดว่าเป็นเพราะเหตุใดกาแฟถึงเข้าไปทำลายสมองส่วนของความจำได้ แต่นักวิจัยชี้ว่า กาแฟอาจมีแคเฟสทอล (cafestol) หรือโมเลกุลในกาแฟที่อาจส่งผลให้คอเลสเตอรอลในร่างกายสูงขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม นักวิจัยไม่ได้แนะนำให้หยุดดื่มกาแฟอย่างเด็ดขาดไปเลย แต่ควรลดปริมาณลงโดยดื่มไม่เกิน 2 แก้วต่อวัน และไม่ควรดื่มหลัง 16.00-17.00 น. เพื่อไม่ให้ฤทธิ์ของคาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟรบกวนการนอนหลับ
ขอขอบคุณที่มา Thainews