หากพูดถึงอาหารอินเดียทุกคนคงมีภาพจำที่ต้องใช้มือกินหรือเป็นอาหารถาดใหญ่ รสชาติจัดจ้านเต็มไปด้วยเครื่องเทศ แต่ที่ร้าน Jhol จะเปลี่ยนแนวคิดกับรูปแบบอาหารอินเดียของคุณไปทันที เพราะที่ร้าน Jhol ได้ออกแบบรังสรรค์เมนูอาหารอย่างพิถีพิถันที่นำเสนอในรูปแบบ Coastal Indian Cuisine เมนูอาหารอินเดียจากแถบชายฝั่งทะเลอินเดียตอนใต้อีกทั้งยังใช้วัตถุดิบสดใหม่ตามฤดูกาล
โดยร้านอาหารตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 18 จากหน้าปากซอยเดินตรงเข้ามาถึงร้านระยะทางประมาณ 200 เมตร เดินทางสะดวกอยู่ในใจกลางเมืองไม่ว่าจะนั่ง บีทีเอส หรือรถสาธารณะ ใครจะนำรถส่วนตัวทางร้านก็มีที่จอดรถให้ เมื่อเข้าถึงภายในร้าน คุณผู้อ่านจะได้สัมผัสบรรยากาศที่กลิ่นอายศิลปะวัฒนธรรมของอินเดียตกแต่งด้วยสไตล์ คอนเทมโพรารี มีภาพประดับ รูปภาพของชนชั้นสูงชาวอินเดียและภาพแผนที่ของประเทศอินเดียที่ประดับอยู่ตามมุมต่างๆที่สะท้อนถึงความเป็นตัวตนของทางร้านอย่างเด่นชัด
โดยเมนูของทางร้านรังสรรค์ความอร่อยโดย Sanchit - Executive Chef Jhol โดยมีเมนูให้เลือกทั้งแบบ a la carte และแบบคอร์ส ในความที่เคยมาทานครั้งแรก ทางร้านแนะนำและเลือกคอร์สพรีเมียม “Culinary Journey” มาให้เราทานเลย เริ่มจากคำแรกด้วยโปเตโต้ออนโยเกิร์ต เปิดการรสชาติคำแรก เมื่อทานเข้าไปแล้วทำให้เรารู้สึกอยากจะทานอาหารเมนูต่อไปในทันที
และเมนูต่อมาที่ทางร้านจัดให้นั้นก็คือ Masala Maska Bun เมนูร้อนแรงที่ขายดีที่สุดของ Jhol เหมาะกับสั่งมาทานตอนเริ่มมื้ออาหาร กับบันขนมปังอบสดใหม่สอดไส้ด้วยเครื่องเทศ Masala ทานคู่กับเนย Pav Baji โรยด้วยผงเครื่องเทศ Gun powder บันสุดนุ่ม หอมกลิ่นหอมเครื่องเทศ
เมนูถัดมากับ Crab appam หน้าตาภายนอกคล้ายๆขนมครกบ้านเรา ตัวแป้งทำจาก Lentil เนื้อสัมผัสตัวแป้งจะบางกรอบแต่มีความนุ่ม คลุกเคล้าเครื่องเทศและเนื้อปูผัดกับเครื่องเทศ อร่อยจนตาลุกวาวเลยทีเดียว วิธีทาน บีบให้เข้ากันหยิบเข้าปากทานได้เลย เพื่อจะได้สัมผัสทุกรสชาติที่เชฟตั้งใจนำเสนอ
จริงๆแล้วทางร้านเสริฟอาหารเมนูต่างๆมาให้เราทานมากมายเมนู ไม่ว่าจะหน้าตาหรือรสชาติทำเอาเราไม่นึกว่าเรากำลังทานอาหารอินเดียอยู่จริงๆ เมื่อทานไปซักพักภาพจำอาหารอินเดียเดิมๆนั้นได้หายไปแล้วจริงๆ อย่างเมนู เนื้อซี่โครงหมูทอด คลุกเคล้ากับซอสมะขาม โรยหน้าด้วยขิงทอด Injipuli pork ribs ทานแล้วนึกว่าทานอาหารไทย แต่รสชาติลึกๆนั้นมีอะไรมากกว่า ซอสมะขาม เราได้สัมผัสความนุ่มหวานอมเปรี้ยวกำลังดี เผ็ดพริกไทยดำนิดหน่อย และมีความกรอบบางๆ สรุปแล้วต้องขอสั่งเพิ่มอีกที
มาถึงจานหลัก ทางร้านมีหลากหลายเมนูให้เลือกสั่งไม่ว่าจะเป็น Chettinad lamb shank ขาหน้าลูกแกะตุ๋นเครื่องเทศ 22 ชนิดตุ๋นในหม้อดินจนเนื้อนุ่มละลายในปาก ทานคู่กับ Gunpowder Naan แป้งนานเนื้อนุ่มอบสดใหม่ ที่ทาด้วยเนยโฮมเมดแล้วย่างในเตาทันดูร์ ด้านบนโรยด้วยผงเครื่องเทศ Gun powder อร่อยจนงงว่านี่เนื้อแกะจริงหรือนี่!!
หากว่าไม่ถนัดเนื้อแกะลองเป็นกุ้งก็ได้ กับเมนู Ghee roast prawn เนื้อกุ้งอบเนยและเครื่องเทศรสเผ็ดร้อนสไตล์อินเดีย เสิร์ฟคู่กับแป้ง Dosa บางกรอบ และ Coconut Chutney แนะนำให้หักแป้ง Dosa เป็นชิ้นเล็ก ทาด้วย Chutney ก่อนจะตักเนื้อกุ้งลงไป จะได้รสกลมกล่อมกำลังดี
เมื่อทานคาวแล้วก็ต้องมีหวานขอแนะนำ Tender Coconut Payasam ขนมหวานคล้ายสาคู เสิร์ฟมาในซุปนม พร้อมไอศกรีมรสนม เยลลี่รสมะม่วง และโรยหน้าด้วยมะพร้าวขูดกรุบกรอบ เนื้อเนียนนุ่มละมุนมาก มีความหอมมัน ตักทุกองค์ประกอบพร้อมกันแล้วนำเข้าไปในปาก บอกเลยว่าเป็นการจบมื้ออาหารที่สมบูรณ์แบบ จริงๆ
แต่ไม่จบเพียงเท่านี้ ในส่วนของบาร์เองน่าก็สนใจไม่น้อยเพราะแอบเห็นลูกค้าหลายคนแวะเวียนไปมุมนี้กันบ่อย ไอ้เราจะไม่ลองก็ไม่ได้ก็ขอจัดเมนูเครื่องดื่มชื่อดังของทางร้าน กับเมนูที่ชื่อว่า เดอะอินเดียน พอร์นสตาร์ แค่ชื่อก็ตะลึงแล้วจ้าพอมาดูส่วนผสมนั้นบอกเลยว่ายังคงความเป็นเอกลักษณ์ความเป็นอินเดีย
โรยหน้าด้วยสายไหมอินเดีย เรียกว่าปิดจบมื้ออาหารค่ำได้แบบ อิ่มอกอิ่มท้อง ใจฟูสุดๆและทำให้ลืมภาพจำกับเมนูอาหารอินเดียในแบบเดิมๆไปเลย หากคุณผู้อ่านสนใจอยากมาลองทานแวะมาเลย ร้าน Jhol ตั้งอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 18 บอกก่อนว่าจองก่อนก็ดีนะจ๊ะเพราะลูกค้าเข้าๆออกร้านตลอดเวลาเลยจ้า
ข้อมูลเพิ่มเติม
jholrestaurant.com