ซึ่งในประเทศไทย และในต่างประเทศ ก็มักจะมีกาแฟ 5 ชนิดนี้ อยู่ในเมนูของทุกร้าน นั่นก็คือ อเมริกาโน่ ลาเต้ มอคค่า คาปูชิโน่ และเอสเปรซโซ่ แน่นอนว่ารสชาติของกาแฟแต่ละร้านที่ชงออกมาย่อมมีความแตกต่างกัน เพราะสายพันธุ์ของเมล็ดกาแฟ หรือแม้แต่ความเก่งของบาริสต้าในการชงกาแฟในแต่ละแก้ว แต่จะดีแค่ไหนหากเราได้รู้จัก และเข้าใจว่าชื่อกาแฟที่เขาเรียกกันมีที่มาและรสชาติแบบใด...
1.อเมริกาโน่
เป็นกาแฟที่ชงโดยเติมน้ำร้อนผสมลงไปในกาแฟแบบเอสเปรสโซ่ ทำให้มีรสชาติเบาบางกว่า ไม่ขมเกินไป นิยมดื่มโดยไม่มีการเติมนม หรือน้ำตาล เพื่อให้ได้รสชาติ และความหอมแบบกาแฟเอสเปรสโซ่ได้เต็มที่ แต่ทั้งนี้ก็สามารถเติมน้ำเชื่อม เพื่อเพิ่มความหวานเล็กน้อย และยังสามารถเสิร์ฟได้ทั้งแบบร้อน และแบบเย็นอีกด้วย
2.ลาเต้
เป็นกาแฟที่มีนมเป็นส่วนผสมหลัก รวมเข้ากับกาแฟเอสเปรสโซ่ และเพิ่มความหอมมันด้วยฟองนมด้านบน ทำให้กาแฟมีรสนุ่ม กลมกล่อม หวานมัน และทานง่าย หากใครชอบกาแฟอ่อน ๆ ไม่ชอบกาแฟที่เข้มข้นเกินไป ลาเต้ก็เป็นอีกเมนูที่เหมาะกับมือใหม่ให้ดื่มกาแฟเช่นกัน
3. มอคค่า
เป็นกาแฟที่มีส่วนผสมของกาแฟเอสเปรสโซ่ นมสด และช็อกโกแลต ทานง่าย เหมาะสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มดื่มกาแฟ หรือไม่ชอบกาแฟที่ชงเข้มจนขมเกินไป เพราะด้วยความหอมหวานของช็อกโกแลต และความหอมมันของนมสด ที่จะช่วยเบรกความขมของกาแฟลงได้ แต่ยังคงความเป็นกาแฟที่หอมกลมกล่อมเอาไว้
4. คาปูชิโน่
เป็นการผสมผสานกันระหว่างกาแฟแบบเอสเปรสโซ่กับนมสดร้อน และฟองนมละเอียดลอยอยู่ด้านบนสุด สุดท้ายจะโรยหน้าด้วยผงอบเชย หรือโกโก้เล็กน้อย ซึ่งส่วนผสมของนมทำให้รสนุ่ม และกลมกล่อม ทำให้ดื่มง่ายกว่ากาแฟดำทั่วไป
5.เอสเปรซโซ่
เป็นกาแฟรสชาติเข้มข้น เพราะเป็นกาแฟล้วนที่ถูกชง โดยใช้แรงไอน้ำ หรือน้ำร้อนผ่านเมล็ดกาแฟคั่วบดละเอียด เสิร์ฟเป็นช็อตแบบไม่เติมน้ำตาล หรือนมเพิ่ม ควรดื่มตอนชงใหม่ ๆ เพื่อไม่ให้เสียรสชาติ เมื่อดื่มจึงได้รสชาติของกาแฟแท้ ๆ แบบเต็ม ๆ
ที่มา : https://miwservices.com/how-are-each-coffee-different/