แก้ว อัจฉริยะกุล เกิดเมื่อ พ.ศ. 2458 เป็นบุตรชายคนโตของนายใหญ่ อัจฉริยะกุล (นาย ซี ปาปา ยาโนปูโลส) ชาวกรีก กับนางล้วน อัจฉริยะกุล (นามสกุลเดิม เหรียญสุวรรณ) มีพี่น้อง 4 คน เมื่อแรกเกิดพระภิกษุตั้งชื่อให้ว่า "แก้วฟ้า" (ซึ่งเป็นที่มาของนามปากกาและชื่อคณะละครวิทยุของครูแก้ว) แต่นายอำเภอเขียนคำว่า "ฟ้า" ตกไป จึงกลายเป็นชื่อ "แก้ว"
ครูแก้วสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย และคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รับราชการที่กรมไปรษณีย์โทรเลข จนกระทั่งลาออกจากราชการเมื่อ พ.ศ. 2497 ครูแก้วสมรสกับ ประภาศรี อัจฉริยะกุล
ครูแก้ว อัจฉริยะกุล ประพันธ์คำร้องตั้งแต่อายุ 19 ปี มีผลงานอัดแผ่นเสียงทั้งสิ้นประมาณ 3,000 เพลง ร่วมกับผู้แต่งทำนองหลายท่าน โดยเริ่มทำงานแต่งคำร้องกับครูเวส สุนทรจามร ก่อน แล้วจึงมารู้จักกับครูเอื้อ สุนทรสนาน และมีผลงานร่วมกันมากที่สุดโดยมีผู้ประมาณไว้ว่าครูทั้งสองประพันธ์เพลงร่วมกันประมาณ 1,000 เพลง จนเป็นที่มาของคำคล้องจองที่ว่า "ทำนองเอื้อ-เนื้อแก้ว" และ "แก้วเนื้อ-เอื้อทำนอง"
โดยเพลงที่ถูกนำมาขับร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนถึงปัจจุบันในเทศกาลสำคัญของประเทศไทยก็เป็นผลงานคำร้องของครูแก้ว อาทิ รำวงเริงสงกรานต์, รำวงวันลอยกระทง
ซึ่งเพลงรำวงเริงสงกรานต์ ครูแก้ว อัจฉริยะกุล ได้นำเอาขนบธรรมเนียม ประเพณีที่มีอยู่ใน วันนักขัตฤกษ์ วันสงกรานต์ ของไทย มาใส่ไว้ครบถ้วน เช่น การทำบุญตักบาตร ในช่วงเช้า การสรงน้ำพระ การก่อพระเจดีย์ทราย การทำบุญอัฐิญาติผู้ใหญ่ การปล่อยนกปล่อยปลา และมีการละเล่นพื้นบ้านของไทย คือ การเล่นมอญซ่อนผ้า และ การเล่นสะบ้า ที่นิยมกันในพื้นที่บางจังหวัด เช่น อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งมี ชุมชนชาวรามัญ หรือ ชาวมอญ ตั้งรกรากอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
เนื้อเพลง : รำวงเริงสงกรานต์คำร้อง : แก้ว อัจฉริยะกุลทำนอง: เอื้อ สุนทรสนานศิลปิน : ชาวคณะสุนทราภรณ์
ฟ้าใหม่แล้วละนะน้องสงกรานต์เราร้องทำนองเพลงโทนโน่นไงจ๊ะ โทนป๊ะโทนๆทั้งโยกทั้งโยนเย้ายวนยั่วใจ
วันตรุษหยุดงานหยุดการสังคมชาวบ้านสิคลายครึกครื้นเริงสงกรานต์กัน พาฝันชื่นชื่นฉลองวันคืนจนพื้นเต็มขั้นดอกเอ๋ยมะเขือแม้ตัวเนื้อมันเต้นเชิญน้องมาเล่น สงกรานต์เอ้าเชิญน้องขึ้นวิมานรับฟ้าสงกรานต์กันกับพี่ปะไร[เอ้าเชิญน้องขึ้นวิมานรับฟ้าสงกรานต์กันกับพี่ปะไร]
ฟ้าใหม่แล้วละนะน้องสงกรานต์เราร้องทำนองเพลงโทนโน่นไงจ๊ะ โทนป๊ะโทนๆทั้งโยกทั้งโยนเย้ายวนยั่วใจ
ฟังพี่ชี้ชวนให้เชิญขวัญเอยมันเปิ่นสะเทิ้นท้อถอยชีวิตชีวา นี่หนาน้อยๆรำแล้วจะพลอยลอยคว้างกลางลานดอกเอ๋ยฟักทองรักจะร้องรำเต้นประสาเราเล่น สงกรานต์ซิมาซิถ้าต้องการสำเริงสำราญกันเป็นคู่ๆไป[ซิมาซิถ้าต้องการสำเริงสำราญกันเป็นคู่ๆไป]
ฟ้าใหม่แล้วละนะน้องสงกรานต์เราร้องทำนองเพลงโทนโน่นไงจ๊ะ โทนป๊ะโทนๆทั้งโยกทั้งโยนเย้ายวนยั่วใจ
รำคู่อยู่เคียงใกล้กันสายทรวงมันสั่นมันซึ้งสุดเสียวงามแท้รำไทย ไม่ไหลลดเลี้ยวเราร้องกลอนเกลียวเกี้ยวพริ้วปลิวลมดอกเอยชบาเหมือนนางฟ้ามาใกล้มาเย้ายวนให้ หลงชมเหมือนนางฟ้าพรากจากพรหมสวยจริงสวยชมงามตรงห่มสไบ[เหมือนนางฟ้าพรากจากพรหมสวยจริงสวยชมงามตรงห่มสไบ]
ฟ้าใหม่แล้วละนะน้องสงกรานต์เราร้องทำนองเพลงโทนโน่นไงจ๊ะ โทนป๊ะโทนๆทั้งโยกทั้งโยนเย้ายวนยั่วใจ
รำคู่อยู่เคียงพี่ชายหัวใจมันส่ายโยกซ้ายย้ายขวาเพลินคล้ายคนธรรพ์เคล้าฝันคล้อยฟ้าไปค้างไปคาสุขาวดีสวรรค์สงกรานต์แสนสนานสนุกรำแล้วเป็นสุขทุกทีซิเออถึงว่าน่ะซิสงกรานต์ทั้งปีรำกับพี่เรื่อยไป[ซิเออถึงว่าน่ะซิสงกรานต์ทั้งปีรำกับพี่เรื่อยไป]
ฟ้าใหม่แล้วละนะน้องสงกรานต์เราร้องทำนองเพลงโทนโน่นไงจ๊ะ โทนป๊ะโทนๆทั้งโยกทั้งโยนเย้ายวนยั่วใจ