บี ณพีศ์รา เตชาชาญ Travel Stylist จาก Napira Travel Stylist
โดยคุณบีมีประสบการณ์ในการท่องเที่ยวทั่วโลก ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก และจากตอนที่ไปเรียนที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งคุณบีก็มักชอบออกเดินทางท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการไปหาเพื่อนต่างเมืองหรือต่างประเทศบ้าง จึงทำให้มีประสบการณ์ในการท่องเที่ยวจากตรงนี้ด้วย ทำให้ได้มีโอกาสเปิดโลกกว้างมากขึ้นสะสมประสบการณ์ ความรู้ต่างๆ เรื่อยๆ โดยส่วนใหญ่เพื่อนๆจะให้คุณบีเป็นคนการจัดทริปหรือคนในครอบครัวเองอยู่เสมอ จึงทำให้มีความหลงใหลในการท่องเที่ยวมากขึ้น ซึ่งครอบครัวของคุณบีเองก็จะมีการไปท่องเที่ยวด้วยกันทุกๆปี
ประวัติพอสังเขปของคุณบี ผู้ออกแบบการท่องเที่ยวคนสวยเริ่มจากคุณบี จบที่โรงเรียนจิตรลดาและปริญญาตรีด้านภาษาอังกฤษที่เอแบค จากนั้นไปเรียนต่อโทที่พอร์ทสมัธ ประเทศอังกฤษ ด้านการจัดการมาร์เก็ตติ้งสื่อใหม่ แล้วด้วยความที่คุณบีเป็นคนชอบทานขนมเค้กจึงไปเทคคอร์สสั้นๆที่ เลอ กอร์ดอง เบลอ ด้านอาหารและขนม อีกทั้งธุรกิจของครอบครัวที่ทำก็จะมีเกี่ยวกับพลังงานทดแทนและการออกแบบภูมิสถาปัตย์อีกด้วย
หลังจากจบมาจากอังกฤษก็ได้มาทำงานให้กับบริษัทเอเจนซี่ที่ทำงานให้กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยซึ่งคุณบีก็ได้ท่องเที่ยวไปทั่วประเทศไทยอีกด้วย หลังจากนั้นคุณบีก็ได้ปรึกษากับคุณแม่ (ไอดอลของคุณบีเรื่องการใช้ชีวิต การทำงาน )ว่าอยากทำบริษัทเกี่ยวกับไพรเวททัวร์ คุณแม่เล็งเห็นความหลงใหลจริงๆจากคุณบี จึงทำให้เป็นบริษัท Napira Travel Stylist จนทุกวันนี้
โดยบริษัท Napira Travel Stylist นั้นเปิดมาประมาณหกปีแล้วจะมีในช่วงสามปีหลังมานี้ที่เป็นการท่องเที่ยวแบบไพรเวททราเวล"
หลักการของการเป็น Travel Stylist คือ เราต้องรู้จักสถานที่ที่ลูกค้าต้องการที่จะไป หรือควรจะต้องไป และการที่เราเป็น Travel Stylist จำเป็นต้องรู้จักสิ่งที่ซ่อนอยู่ในความคิดของลูกค้าด้วย ว่าลูกค้าคนนั้นเป็นคนอย่างไร ชอบอะไร และควรจะต้องทำอะไรบ้าง ณ สถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆ"
คุณสมบัติของ Travel Stylist คือ
1.) มีความรอบรู้เรื่องสถานที่ท่องเที่ยว
2.) มีความเอาใจใส่ในทุกคำพูดของลูกค้า จะต้องจับประเด็นให้ได้ว่าลูกค้าชอบอะไร
3.) ต้องมี Taste ในทุกด้านที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว
4.) ต้องมีศิลปะในด้านการท่องเที่ยว และ
5.) ต้องมี Positive Thinking / Mind Set อยู่ตลอดเวลา เพราะ Travel Stylist ต้องบริหารความสุขของลูกค้าในทุกทริปการท่องเที่ยว
คุณบีกล่าวต่อว่า บริการของ Napira Travel Stylist มีด้วยกัน 3 รูปแบบ คือ...
Napira Travel Stylist Luxe เป็นโปรแกรมทัวร์แบบ Beyond Premium ที่จะเลือกแต่องค์ประกอบที่หรู ที่พิเศษจริงๆ เข้ามาในโปรแกรม เช่น มีกลุ่มลูกค้าที่ต้องการดูฟุตบอล หรือจะเป็นกีฬาแมชท์สำคัญๆต่างๆทาง Napira Travel Stylist LUXE จัดให้ได้ เพราะทาง Napira Travel Stylist มีเอเจนซี่ดีๆ ที่จะหาตั๋วรอบเด็ดๆพวกนี้ให้กับกลุ่มลูกค้าได้ รวมถึงการจองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม จองร้านอาหารที่ยากๆ ทาง Napira Travel Stylistก็ทำให้ได้เช่นกัน หรือกลุ่มลูกค้าที่เป็นครอบครัว คู่รักที่อยากมีทริปในฝัน ให้มีรถรับส่งตั้งแต่ออกจากสนามบิน ท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ พร้อมไกด์ส่วนตัวตลอดทริปก็จัดให้ได้ โดยที่ขนาดของกลุ่มจะไม่เกิน 10 ท่าน
Napira Travel Stylist Together เป็นการจัดโปรแกรมท่องเที่ยวสำหรับกลุ่มบริษัท กิจการ หรือ องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ที่มีขนาดตั้งแต่ 10 ท่านขึ้นไป
คุณบียังกล่าวอีกว่า "ธุรกิจการท่องเที่ยวเป็นธุรกิจบริการ ฉะนั้นกลุ่มเป้าหมายของเรามีค่อนข้างหลากหลายแต่จากการทำงานอย่างหนักทำให้เราค้นพบว่าลูกค้าที่แท้จริงสำหรับธุรกิจท่องเที่ยวนั้นจริงๆ มีอยู่สามกลุ่มคือ
1. กลุ่มการท่องเที่ยวแบบ Super Vip
2. กลุ่มท่องเที่ยวเป็นหน่วยงาน/การท่องเที่ยวขององค์กร
3. กลุ่มท่องเที่ยวที่เป็นแบบแมสหรือที่ดูเรื่องราคาทัวร์เป็นหลัก
Travel stylist Together เหมาะกับการท่องเที่ยวเป็นกลุ่ม สามารถกำหนดโดยเริ่มจากงบประมาณ"
Napira Travel Stylist Unique เหมาะกับตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป แบบนี้อยู่ที่ความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ลูกค้าต้องการแบบไหน ทาง Napira Travel Stylist Unique สามารถออกแบบให้ได้ดีที่สุด ยืดหยุ่นได้"
คุณบีกล่าวเสริมว่า " การทำให้ลูกค้ามีความพึงพอใจมากที่สุด ตามที่ลูกค้าต้องการ คือหัวใจของ Napira Travel Stylist เป็นเหมือนที่ปรึกษาให้ลูกค้า ลูกค้าต้องการเที่ยวแบบไหนเค้าก็จะจินตนาการมาเล่าให้ฟัง หน้าที่ของเราก็คือทำฝันของลูกค้าให้เป็นจริง ตอบโจทย์ให้ลูกค้าพึงพอใจมากที่สุด
คุณบีกล่าวทิ้งท้าย "ถ้าถามถึงทริปที่ประทับใจที่เดินทางไปกับลูกค้าก็คือ ทริปที่ไปกับคุณฟลุ๊คและคุณนาตาลี มีไปงานมิลานเอ็กซ์โป ซึ่งเราก็สามารถขอบัตรวีไอพีให้กับลูกค้าของเราได้ เดินทางไปยังจูกันโน่ จุงเฟร้า ประเทศสวิตเซอร์แลนด์, ไร่ไวน์อัลซาส โกลม่าร์ ปารีสประเทศฝรั่งเศส, ซาลส์บวร์ก ประเทศออสเตรีย รวมเป็นระยะเวลา 11 วัน ในการเดินทางที่เต็มไปด้วยความสุข สนุกสนาน การท่องเที่ยวคือ Art of Travel เป็นศิลปะของการใช้ชีวิต ตามความฝัน ที่ตอบโจทย์ Lifestyle ของแต่ละคน คือการสร้างความฝันแห่งการท่องเที่ยวที่เป็นจริง"