อาจจะเป็นเรื่องไกลตัวสักหน่อยแต่ทว่า วันนึงเผอิญหลงป่า ต้องเดินทางนานจนหิวโซ พืชผักข้างทางก็ดูมีค่าขึ้นทันตา แต่ทว่า ถ้าเกิดเราสุ่มสี่สุ่มห้ากิน
1. กลอย เถาวัลย์มีหัวใต้ดินลึกประมาณ ๑๐ - ๑๕ เซนติเมตร ตามเถาซึ่งจะงอกทุกปีมีหนามสั้น ๆ พบทั่วประเทศในป่าเต็งรัง ป่าผสม และป่าดงดิบหัวกลอยให้แป้งมากแต่มีสารพวกไดออสคอรีน ซึ่งมีผลต่อระบบประสาทส่วนกลางซึ่งอาจทำให้ถึงตามได้ ต้องสกัดเอาสารเป็นพิษดังกล่าวออกเสียก่อนจึงรับประทาน วิธีสกัดคือปอกเปลือกทิ้ง แล้วฝานบาง ๆ ใส่ชะลอมไปแช่น้ำทะเล หรือแช่น้ำไหล เช่น น้ำตก น้ำห้วย สัก ๓ วัน หรือไม่ก็หนักเกลือ นำมาคั้นน้ำทิ้งทำอยู่สัก ๓ วันเช่นกัน แล้วจึงนำมาปรุง เช่น ต้ม รับประทานได้
2. เต่าร้างเต่าร้างเป็นพืช จัดอยู่ในจำพวกปาล์มชนิดหนึ่ง พบทั่วไปในป่าดิบทุกแห่ง ชอบขึ้นในบริเวณที่มีความชุ่มชื้นสูงออกผลเป็นทะลาย บางต้นเตี้ย แต่บางต้นสูงถึง ๘ เมตรเนื้ออ่อนข้างในตรงบริเวณคอต้นกินได้ แต่ต้องทำให้สุกเสียก่อน เพราะยางของพืชชนิดนี้ เมื่อถูกผิวหนังจะเกิดอาการคัน
3. มะมุด หรือส้มมุดมะมุด หรือส้มมุด ชื่อเหมือนเคยได้ยิน ลักษณะของมะมุดหรือส้มมุดนี่ ใบและผลคล้ายมะม่วง นิยมปลูกกันในจังหวัดภาคใต้ ผลดิบกินได้มีรสเปรี้ยวจัด แต่บางต้นก็จืดๆ หรือรสฝาดอมเปรี้ยวเล็กน้อย หรือจะใสแกง หรือปนกับอาหารประเภทอื่น เพื่อทำให้มีรสเปรี้ยวขึ้น ผลสุกก็ยังคงมีสีเขียว กลิ่นหอมมาก รสหวาน ยางของผลมีพิษเล็กน้อย กล่าวคือถ้าใช้ปากกัดจะทำให้ปากเป็นแผลได้ ถูกผิวหนังอ่อนจะเกิดพุพอง เข้าตาอาจทำให้เป็นแผลในตาได้ โดยเฉพาะผลอ่อนมียางมาก ผลดิบนำมาดองน้ำเกลือเก็บไว้กินได้นานๆ เช่นเดียวกับมะม่วง
4. ระย่อมตีนหมาระย่อมตีนหมาเป็นพันธุ์ไม้ขนาดเล็กชนิดหนึ่ง ขึ้นตามหัวไร่ปลายนา แต่ไม่สู้จะพบมากนัก อกดอกเป็นกระจุกสีแดงตอนปลาย รากโตหยั่งลึกลงไปในดิน ๑๕ - ๓๐ เซนติเมตรชาวบ้านมักนิยมนำรากมาหั่นตากแดดให้แห้งแล้วป่นให้ละเอียดใช้เป็นยาเบื่อสุนัข โดยปนอาหารให้กิน จะทำให้เกิดอาการมึนเมา และจะตายภายในเวลา ๓-๕ ชั่วโมง หากคนบริโภคเข้าไปจะทำให้ถึงแก่ความตายได้
5. รำเพยไม้ต่างประเทศ ชื่อว่ารำเพยนี้ มีการนำเข้ามาปลูกกันแพร่หลายในเมืองไทย เป็นไม้ประดับตามบริเวณบ้านหรือสวน หรือตามสุสาน ออกดอกออกผลตลอดปี แต่ทว่าก็มีในป่าเช่นกันที่ว่ารำเพยมีพิษนี้ เพราะทุกส่วนของลำต้นรำเพยมียางขาว ซึ่งเป็นพิษต่อหัวใจ วัวควายกินใบรำเพยเข้าไปประมาณ ๖ - ๑๐ ใบ จะทำให้ตายได้ บางครั้งคนอาจเผลอกินเข้าไป ก็ทำให้เสียชีวิตได้เช่นกัน
6. รักใหญ่รักใหญ่เป็นไม้ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ผลัดใบในฤดูแล้ง สูง ๑๕ - ๒๐ เมตร ออกดอกสังเกตเห็นได้ง่าย เป็นพวงขาวๆ ในเดือนพฤศจิกายน พบทั่วไปในป่าผลัดใบผสมและป่าเต็งรัง ในฤดูออกดอกจะมองเห็นได้แต่ไกล เพราะเป็นสีขาว ลักษณะเด่นของไม้ชนิดนี้คือแมลงจะไปไข่ไว้ตามใบ และจะมีตุ่มกลมๆ จำนวนมากตามด้านบนและล่าง ใบยางรัก จะเป็นพิษต่อผิวหนัง ทำให้เกิดอาการแพ้ได้ แล้วอาการแพ้จะมีมากน้อยต่างกัน เมื่อถูกผิวหนังจะเกิดอาการคันทั่วตัว อาจกลายเป็นแผลเน่าเฟะก็ได้ อาการจะปรากฏ ๒ - ๗ วัน บางคนอาจเป็นเดือน ชาวบ้านแก้โดยเอาเปลือก และใบสักมาต้มอาบ
7. ลำโพงลำโพงเป็นไม้พุ่มชนิดหนึ่งพบตามที่โล่ง ๆ หรือตามสวนทั่วประเทศ มีชื่อเรียกกันแตกต่างออกไป เช่น มะเขือบ้า เป็นต้น ลักษณะใบและผลคล้ายกับมะเขือแต่ผลเป็นหนามขรุขระมีเมล็ดเล็ก ๆ ขนาดโต ๒ - ๓ มิลลิเมตร อยู่ข้างในจำนวนมาก ผลโต ๔ - ๕ เซนติเมตรส่วนที่เป็นพิษมากที่สุดคือ เมล็ดและใบ ถ้ากินเข้าไปจะทำให้เกิดคอแห้ง ลิ้นแข็ง หัวใจเต้นเร็ว เสียสติ คล้ายกับคนบ้า อาการจะปรากฏภายในเวลา ๕-๑๐ นาที หลังจากกินเข้าไปแต่ไม่ทำให้ถึงเสียชีวิต และจะแสดงอาการอยู่ ๒ - ๓ วัน
8. ละหุ่งพืชต่างประเทศนำเข้ามาปลูกแพร่หลายในเมืองไทย เป็นพืชไร่ที่ปลูกกันประจำปีทุกส่วนของพืชชนิดนี้มีพิษ โดยเฉพาะเมล็ดเมื่อกินเข้าไปจะทำให้เกิดอาการ เจ็บคอ ปวดท้อง อาเจียน ชักกระตุก ซึ่งถ้ากินเข้าไปมาก ๆ จะทำให้ตายได้
9. สบู่ดำไม้พุ่มขนาดเล็ก สูง ๒ - ๓ เมตร พื้นเดิมอยู่ในทวีปอเมริกา ชาวโปรตุเกส นำมาปลูกเผยแพร่กันทั่วไป ส่วนมากนิยมปลูกตามรั้วบ้านหรือสวนยางและน้ำมันในเมล็ดพืชชนิดนี้เป็นพิษต่อผิวหนังอ่อน ถ้าถูกเข้าอาจพุพองได้ในเมล็ดมีสารเคอรซีน ซึ่งเป็นพิษ หากกินเข้าไปมาก ๆ จะทำให้เกิดอาการร้อนไหม้ในลำคอ วิงเวียนศีรษะ ท้องร่วง หมดแรงและอาจทำให้ถึงตายได้ เมล็ดแก่จัด แกะผิวหุ้มออกแล้วเอาเมล็ดมาเสียบไม้ต่อ ๆ กัน ใช้จุดแทนเทียนไขได้ดี และไม่มีควัน
ที่มา http://www.oknation.net/blog/emaginfo/2014/09/19/entry-1ลิขสิทธิ์บทความของ emaginfo.com