"โหรฟองสนาน" เปิดเผยคำทำนายผ่านบทความ แม่หมอสมัครเล่นตอนที่ 491 โดย ฟองสนาน จามรจันทร์ อาการตรีเทพในเมษต่อเมืองจะเริ่มคลายฤทธิ์ระยะแรก ระบุว่า
เริ่มตั้งแต่ 19 เมษายน 2566 มาแล้วที่เมือง-การเมือง-จิตใจคนไทยปั่นป่วนด้วยดาวตรีเทพในทางโหราศาสตร์ พร้อมกันส่งผลเต็มที่ถึงราศีเมษ ที่ลัคนาเมืองตั้งอยู่อัน ได้แก่
ดวงที่หนึ่ง กำลังเดินอยู่ในราศีเมษ คือ พระราหูจร (8) เจ้าของลุ่มหลงมัวเมา อวิชชาบดบังทุกคน เงามืดหม่น ทำให้เกิดความลุ่มหลง หรือโมหะจริตและอกุศลจิต มัวเมาไปตามอารมณ์ ตามคำจำกัดความ "ทายมัวเมาให้ทายราหู"
ดวงที่สอง คือ พระเสาร์จร(7) หัวหน้าดาวร้ายหรือบาปเคราะห์ เทพเจ้าแห่งความระทมตามคำจำกัดความสั้นๆว่า "ทายโทษทายทุกข์ให้ทายเสาร์" กำลังเดินอยู่ในราศีกุมภ์ แต่ส่งอิทธิพลฤทธิโยคไปถึงราศีเมษเต็มที่
ดวงที่สาม คือ พฤหัสบดีจร(5) หัวหน้าดาวดี ประธานแห่งศุภเคราะห์ ที่มีคูณูประการมาก คอยบันดาลให้มนุษย์มีแต่ความสุขสถาพร มีโชคและความมั่งคั่งฯลฯตามคำจำกัดความหมายสั้นๆว่า "ทายปัญญาบริสุทธิ์ให้ทายพฤหัสบดี" กำลังเดินอยู่ในราศีเมษ
จึงเมื่อทั้งเจ้าของความลุ่มหลงมัวเมา-หัวหน้าดาวร้าย และหัวหน้าดาวดี ต่างดวงต่างมีอิทธิพลเต็มที่ในราศีเมษ ที่ลัคนาเมืองรัตนโกสินทร์ ตั้งอยู่ร่วมกับพระอาทิตย์ดวงเดิม(๑) ตัวแทนการเมือง-ผู้นำ-คนมียศศักดิ์-ผู้นำทุกองค์กร และยังเป็นดาวตัวแทนจิตใจของคนเมืองรัตนโกสินทร์(ตนุเศษ) ด้วย อาการผิดฝั่งผิดฝา ปั่นป่วน ผันผวน ว้าวุ่นทั้งด้านดี-ร้ายจึงปรากฏในเมืองและการเมืองและจิตใจคนในเมืองตลอด ตามหลักที่โหรลักษณ์ ราชสีห์อ้างตำราพระเคราะห์คู่นำไว้หลังเลือกตั้งใหม่
จึงขอบันทึกอาการผิดฝั่งผิดฝา ปั่นป่วน ผันผวน ว้าวุ่นทั้งด้านดี-ร้ายเป็นปูมโหร คือ
คำถาม คือ เรื่องผิดฝั่งผิดฝา ปั่นป่วน ผันผวน ว้าวุ่นทั้งด้านดี-ร้ายจากฤทธิ์ตรีเทพต่อการเมืองนี้ จะเริ่มคลี่คลายเมื่อใด แล้วจะได้นายกรัฐมนตรีเมื่อใดคำตอบทางโหร คือ
1.ฤทธิ์จากตรีเทพเริ่มจางระยะแรกเริ่มตั้งแต่ 18 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป เมื่อพระราหูจรย้ายเข้าราศีมีน ลดความลุ่มหลงมัวเมาและอวิชชาในเมืองลง พลิกไปออกอาการร้ายอื่นเช่นการเกิดของลัทธิ์ และการต่อสู้แปลกๆ ซึ่งในอดีตเคยเกิดของลัทธิคอมมิวนิสต์ หรือการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นต้น
จึงคาดว่ามีโอกาสมากที่จะมีการชุมนุม ซ่องสุมในเมืองเพื่อแสดงแนวความคิดเช่นสถาบันพระมหากษัตริย์ การปฏิวัติกองกำลังของชาติ ฯลฯให้เห็นพอหอมปากหอมคอ
2.ส่วนหลังจากวันที่ 18 ตุลาคม 2566 ไปแล้วที่จะเหลือเพียงสองเทพเท่านั้นที่จะมีผลต่อราศีเมษ - ลัคนาเมือง - การเมือง - บุคคลสำคัญทางการเมือง และจิตใจคนในเมืองอันได้แก่พฤหัสบดีจร(5) กับพระเสาร์จร(7) นั้นจะปรากฏอาการสั่นไหวในทางการเมืองจากการผลัดกันไล่ล่า - ร่วมมือกันระหว่างฝ่ายดาวดี - ร้ายในเมืองให้แปลกใจเป็นระยะๆ
3.วาระที่ฤทธิ์เทพอีกสองดวงที่เหลือที่มีผลกับเมือง - การเมือง - จิตใจคนไทยตามข้อ 2.จะหยุดอาการลงเริ่มตั้งแต่ 30 เมษายน 2567 เป็นต้นไป ที่เมืองจะสงบขึ้น เมื่อพฤหัสบดีจร(5) ย้ายจากราศีเมษเข้าไปเดินในราศีพฤษภ แยกพ้นจากกระแสพระเสาร์จร(7) ดาวร้ายที่เคยส่งมาปะทะจากราศีกุมภ์
แต่ไม่ว่าการเมืองจะผิดฝั่งผิดฝา ปั่นป่วน ผันผวน ว้าวุ่นทั้งด้านดี - ร้าย หรือเกิดการไล่ล่า-ร่วมมือกันระหว่างฝ่ายดี-ร้ายในเมืองจะเกิดขึ้นแค่ไหนอย่างไรการได้นายกรัฐมนตรี-รัฐบาลนั้นนักการเมืองก็จะตกลงกันได้ในที่สุด
โดยน่าจะเห็นนายกรัฐมนตรีคนที่สามสิบอย่างเป็นทางการประมาณระหว่าง 18 สิงหาคม-18 กันยายน 2566 เมื่อพระอาทิตย์จร(1) ตัวแทนคนมียศศักดิ์ - ผู้นำเข้าไปเดินในราศีสิงห์ถิ่นเดิม - เข้มแข็งด้วยมาตรฐานสูงคือเกษตราธิบดี ซึ่งระยะดังกล่าวสอดคล้องกับเวลาที่จะนัดโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีรอบต่อไป
ฟองสนาน จามรจันทร์
4 สิงหาคม 2566
อ่านข่าวดวงที่เกี่ยวข้อง