การดื่มน้ำ 1 แก้วเมื่อตื่นนอนนับเป็นการเริ่มต้นวันที่ดี เพราะช่วยเติมน้ำให้กับร่างกายหลังจากที่นอนหลับมาเป็นระยะเวลา 7-8 ชั่วโมง จึงส่งผลโดยตรงต่อระบบขับถ่าย ซึ่งหากใครอยากรู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากขึ้นแนะนำว่าให้ดื่ม "น้ำมะนาว" ผสมกับน้ำอุ่นๆ สักแก้ว นอกจากจะได้ความสดชื่นแล้ว "น้ำมะนาว" ยังช่วยดีท็อกซ์ลำไส้และมีประโยชน์ในด้านอื่นๆ ต่อร่างกายไปพร้อมๆ กัน ดังนี้
ช่วยย่อยอาหาร
น้ำมะนาวจะช่วยล้างสารพิษและสิ่งที่ตกค้างอยู่ในร่างกาย เพราะในน้ำมะนาวนั้นมีองค์ประกอบคล้ายคลึงกับน้ำลายและกรดไฮโดรคลอริกที่อยู่ในน้ำย่อย ส่งผลให้ตับผลิตน้ำดีซึ่งเป็นกรดที่จำเป็นในการย่อยอาหาร นอกจากนี้ มะนาวยังมีแร่ธาตุและวิตามินสูง ช่วยขับสารพิษที่อยู่ในระบบทางเดินอาหาร ฤทธิ์ในการย่อยของกรดที่มีอยู่ในน้ำมะนาวนั้นจะช่วยบรรเทาอาการเกี่ยวกับอาหารไม่ย่อย อย่างเช่น กรดไหลย้อน ท้องอืด ท้องเฟ้อได้ นอกจากนี้ สมาคมมะเร็งในอเมริกายังแนะนำว่าควรจะดื่มน้ำมะนาวอุ่น ๆ เพื่อกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ทำให้ไม่มีสารตกค้างซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดมะเร็งในลำไส้ได้
ช่วยดีท็อกซ์และเป็นยาขับปัสสาวะ
น้ำมะนาวจะช่วยขจัดสิ่งต่าง ๆ ในร่างกายออกผ่านออกทางปัสสาวะ ซึ่งจะช่วยทำให้ระบบทางเดินปัสสาวะทำงานดีขึ้น นอกจากนี้ กรดซิตริกในน้ำมะนาวยังจะช่วยเพิ่มการทำงานของเอนไซม์ที่ช่วยกระตุ้นตับและช่วยในการล้างสารพิษอีกด้วย
ช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน
มะนาวมีวิตามินซีสูงช่วยต่อสู้โรคหวัด และยังมีโพแทสเซียมสูงซึ่งจะช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองและเส้นประสาท ซึ่งช่วยควบคุมความดันโลหิตด้วย วิตามินซีที่พบในมะนาวนั้นยังช่วยต่อต้านการอักเสบ และช่วยรักษาโรคหอบหืด และโรคอื่น ๆ เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กในร่างกาย ซึ่งธาตุเหล็กนี้มีความสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกันอย่างมาก แถมมะนาวเปรี้ยวจี๊ดยังมีซาโปนินซึ่งช่วยต่อต้านเชื้อไข้หวัดและลดเสมหะในร่างกายได้
ปรับสมดุลของค่า pH ในร่างกาย
แม้ว่ามะนาวมีทั้งกรดซิตริกและแอสคอร์บิกซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรด แต่เมื่อผสมกับน้ำดื่มแล้วน้ำมะนาวจะมีฤทธิ์เป็นด่าง หรือที่เราเรียกว่า Alkaline Water ซึ่งจะช่วยในการลดความเป็นกรดในเลือด อีกทั้งแร่ธาตุที่อยู่ในมะนาวยังช่วยปรับสมดุลความเป็นด่างให้แก่เลือด การดื่มน้ำมะนาวเป็นประจำจะช่วยลดความเป็นกรดในร่างกายโดยเฉพาะกรดยูริคซึ่ง เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของอาการปวดและการอักเสบ
ทำให้ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง
วิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ สามารถช่วยลดริ้วรอย สิว แก้ปัญหาผิวมัน ทำให้ผิวเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล และช่วยฆ่าแบคทีเรียบางชนิดที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดสิว แถมยังช่วยทำให้สุขภาพผิวดีจากภายในสู่ภายนอก เราสามารถนำมะนาวมาใช้กับแผลเป็นโดยตรงเพื่อทำให้แผลเป็นจางลงได้อีกด้วย
ช่วยเพิ่มพลังและทำให้อารมณ์ดีขึ้น
พลังงานของมนุษย์ส่วนใหญ่มาจากอะตอมและโมเลกุลในอาหารซึ่งประกอบด้วยโมเลกุล ประจุบวก ซึ่งเมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วก็จะทำให้ร่างกายทำงานช้าลง แต่มะนาวก็เป็นหนึ่งในอาหารไม่กี่ชนิดที่มีโมเลกุลประจุลบในปริมาณสูง จึงช่วยทำให้ร่างกายมีพลังมากขึ้น นอกจากนี้กลิ่นของน้ำมะนาวยังช่วยปรับอารมณ์ที่ขุ่นมัวให้ดีขึ้น ช่วยชำระล้างจิตใจยังช่วยลดความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าได้อีกด้วย
ช่วยรักษาแผลและลดการอักเสบ
วิตามินซีที่อยู่ในน้ำมะนาวมีคุณสมบัติในการรักษาแผลและเป็นสารอาหารที่จำเป็นในการบำรุงรักษากระดูกเนื้อเยื่อและกระดูกอ่อน นอกจากนี้ วิตามินซียังมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบ ลดความเครียด ลดอาการบาดเจ็บและช่วยทำให้สุขภาพดีอีกด้วย
ช่วยให้ลมหายใจสดชื่นขึ้น
นอกจากทำให้ลมหายใจสดชื่นแล้ว น้ำมะนาวยังช่วยบรรเทาอาการปวดฟันและโรคเหงือกอักเสบได้ แต่กรดซิตริกที่อยู่ในน้ำมะนาวนั้นสามารถกัดกร่อนเคลือบฟันได้เหมือนกัน ดังนั้นเพื่อให้การดื่มน้ำมะนาวได้ผลดีมากกว่าผลเสีย เราจึงควรแปรงฟันก่อนที่จะดื่มน้ำมะนาวและควรจะบ้วนปากด้วยน้ำสะอาดหลังจากที่ดื่มทุกครั้ง
เติมความชุ่มชื้นให้ร่างกาย
น้ำมะนาวและน้ำอุ่นจะช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงโดยการให้ความชุ่มชื้นและเติมของเหลวในร่างกายที่หายไป เมื่อร่างกายของคุณขาดน้ำจะทำให้เกิดผลกระทบมากมาย เช่น รู้สึกเหนื่อย ท้องผูก ภูมิคุ้มกันต่ำ ความดันโลหิตต่ำ หมดแรง นอนไม่หลับ อารมณ์ไม่ดีและรู้สึกเครียด
มีส่วนช่วยลดน้ำหนัก
มะนาวมีไฟเบอร์สูงซึ่งทำให้เรารู้สึกอิ่ม จึงช่วยควบคุมความอยากอาหารได้ มีการศึกษาแสดงให้เห็นว่าผู้ที่บริโภคอาหารที่มีฤทธิ์เป็นด่างจะทำให้สามารถลดน้ำหนักได้เร็วกว่าปกติ ดังนั้นการดื่มมะนาวในตอนเช้าจะช่วยทำให้ความอยากอาหารลดลงและสามารถลดน้ำหนักได้จริง
ทั้งนี้ หากรสชาติเปรี้ยวมากหรือรู้สึกฝาดเกินไป แนะนำให้ผสมน้ำผึ้งลงไปเล็กน้อย ผสมกับกาแฟดำ เติมใส่ในชาก็ได้เช่นกัน ทั้งนี้ มะนาวเป็นผลไม้รสเปรี้ยวที่มีกรดซิตริกสูง หากรับประทานมากเกินไปอาจส่งผลให้คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ฟันผุ ฟันเหลือง เนื่องจากกรดซิตริกอาจทำลายสารเคลือบฟัน ดังนั้น จึงควรกินแต่พอดี และอย่าลืมดื่มน้ำเปล่าสะอาดให้เพียงพอต่อร่างกายพร้อมกับรับประทานอาหารที่หลากหลายครบ 5 หมู่ เพื่อการมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน