svasdssvasds
เนชั่นทีวี

Health & Lifestyle

ป่วยโรคอะไรไม่ควรกินทุเรียน กินทุเรียนกับมังคุด ดีจริงหรือ

ป่วยโรคอะไรไม่ควรกินทุเรียน กินทุเรียนกับมังคุด ดีจริงหรือ
18 มีนาคม 2568
เกาะติดข่าวสาร >> NationTV
logoline

รู้หรือไม่ ป่วยเป็นโรคอะไร ไม่ควรกินทุเรียน แล้วกินทุเรียนคู่กับมังคุด ที่ช่วยดับร้อน อาจไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพเสมอไป

ทุเรียน ราชาแห่งผลไม้ไทย ของโปรดห้ามพลาดของหลายๆคน ในแง่สุขภาพ ทุเรียน จัดเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์และมีโทษในเวลาเดียวกัน

 

เว็บไซต์คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เผยแพร่ข้อมูล กินทุเรียนอย่างไรไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ในมุมมองของแพทย์จีน

 

เปิดสารอาหารในทุเรียน คุณค่าทางโภชนาการต่อ 100 กรัม ที่ส่งผลดีต่อสุขภาพ
 

  • พลังงาน 174 กิโลแคลอรี่
  • คาร์โบไฮเดรต 27.09 กรัม
  • เส้นใย 3.8 กรัม
  • ไขมัน 5.33 กรัม
  • โปรตีน 1.47 กรัม
  • วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 วิตามินบี 9
  • วิตามินซี แคลเซียม ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม แมงกานีส ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม โซเดียม สังกะสี
     

แพทย์แผนจีน ระบุว่า ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีรสหวาน เผ็ด ฤทธิ์ร้อน สามารถบำรุงม้าม เพิ่มชี่(ลมปราณ) บำรุงไต เพิ่มหยาง และความอุ่นให้กับร่างกาย เหมาะกับคนที่ร่างกายอ่อนแอ เลือดและลมปราณน้อย เนื่องจากเนื้อทุเรียนอุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย ดังนั้นจึงมีประโยชน์ในด้านอื่นๆอีก เช่น
 

  • ใยอาหาร ช่วยในเรื่องของการขับถ่ายได้ดี
  • เบต้าแคโรทีน ช่วยบำรุงสายตา
  • โฟเลต ช่วยในการสร้างเม็ดเลือด
  • สารต้านอนุมูลอิสระ จากการศึกษาของนักวิจัยสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พบว่า ทุเรียนมีฤทธิ์ในการกำจัดอนุมูลอิสระบางชนิด ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้หน้าแก่เกินวัย ดังนั้นหากบริโภคทุเรียนตามสัดส่วนที่พอดี จะช่วยลดการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกายได้ อย่างไรก็ดี ไม่แนะนำให้กินทุเรียนเพื่อหวังผลเบื้องต้นที่กล่าวมา เพราะจะทำให้ร่างกายได้รับทั้งคาร์โบไฮเดรต น้ำตาล และไขมันสูงไปด้วย หากกินทุเรียนในปริมาณที่เพียงพอ ก็ย่อมส่งผลดีต่อร่างกายได้อย่างมากมายเช่นกัน

กินทุเรียนวันละกี่เม็ด ถึงจะปลอดภัยต่อสุขภาพ

 

ถ้าบริโภคมากเกินความจำเป็น จะทำให้ร่างกายสะสมความร้อนไว้มากเกินไป จะส่งผลต่างๆตามมามากมาย เช่น ร้อนใน เจ็บคอ เป็นแผลในปาก ท้องผูก ดังนั้นผู้ที่มีพื้นฐานสุขภาพค่อนไปทางร้อน และหยินพร่อง ควรรับประทานทุเรียนอย่างพอเหมาะ

 

จากข้อมูลของกรมอนามัยแนะนำ ว่าไม่ควรกินทุเรียนเกินวันละ 2 เม็ดกลาง เนื่องจากการกินทุเรียน 4-6 เม็ด เทียบเท่ากับการดื่มน้ำอัดลม 2 กระป๋อง (พลังงานประมาณ 400 กิโลแคลอรี่) จึงเป็นเหตุให้ร่างกายได้รับพลังงานมากเกินควร ไม่กินถี่ทุกวัน และลดอาหารกลุ่มข้าวแป้ง ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสหวานจัด หรือมันจัด เพื่อที่จะได้รับพลังงานในปริมาณที่ไม่เกินกว่าร่างกายต้องการ

 

นอกจากเนื้อทุเรียนแล้ว ยังหมายรวมถึงผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปมาจากทุเรียน เช่น ทุเรียนทอด ทุเรียนกวน ไอศกรีมรสทุเรียน และควรออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย

 

ป่วยโรคอะไรไม่ควรกินทุเรียน กินทุเรียนกับมังคุด ดีจริงหรือ

 

โรคประจำตัวอะไร ที่ไม่ควรกินทุเรียน หรือต้องกินอย่างระมัดระวัง

 

1.โรคเบาหวาน ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน กินทุเรียนเข้าไป อาจทำให้มีอาการน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเกินไป ส่งผลให้เจ็บป่วยไม่สบายตัวหรือร้อนใน และอาจเป็นอันตรายถึงภาวะช็อกได้


2.โรคความดันโลหิตสูง ทุเรียนจัดว่าเป็นผลไม้ฤทธิ์ร้อน จึงไม่ควรรับประทานในปริมาณมาก เพราะจะทำให้ความดันสูงขึ้น อาจเป็นอันตรายแก่ร่างกายได้


3-4.โรคไต และ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง ผู้ป่วยโรคไตร่างกายจะขับโพแทสเซียมออกได้ไม่ดี ซึ่งถ้ามีการสะสมของโพแทสเซียมปริมาณมาก จะส่งผลให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ


5. ผู้ที่ต้องการคุมปริมาณน้ำตาลและไขมันในเลือด ควรระมัดระวังในการกิน  และควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

 

ทุเรียนไม่ควรกินคู่กับอะไรบ้าง


1.ไม่ควรกินร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะก่อให้เกิดอาการหน้าแดง ชา วิงเวียน และอาเจียนได้ อีกทั้งทุเรียนเป็นอาหารที่มีไขมัน และคาร์โบไฮเดรตสูง ส่วนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็ให้พลังงานสูงเช่นเดียวกัน เมื่อกินทุเรียนร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร่างกายจะได้รับพลังงานที่มากเกินไป ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว


2.ไม่ควรกินร่วมกับเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เพราะจะทำให้ปวดศีรษะได้

 

ป่วยโรคอะไรไม่ควรกินทุเรียน กินทุเรียนกับมังคุด ดีจริงหรือ

 

หลายคนอาจเคยได้ยินมาบ้างว่า ควรรับประทานทุเรียนคู่กับมังคุดช่วยลดความร้อน ตามหลักการแพทย์แผนโบราณของจีนกล่าวว่าทุเรียนเป็นผลไม้ฤทธิ์ร้อน มังคุดเป็นผลไม้ฤทธิ์เย็นที่จะช่วยดับความร้อนที่เกิดขึ้น ถ้าในแง่ของฤทธิ์ ผลไม้ทั้ง 2 อย่างนี้จะเกี่ยวข้องกัน

 

แต่อย่างไรก็ตามในแง่โภชนาการแล้ว ทั้งทุเรียนและมังคุดต่างก็มีน้ำตาลสูง ดังนั้นไม่ควรรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป

 

อ้างอิงข้อมูลจาก : แพทย์จีนพรฟ้า อนันต์ไพศาล แพทย์แผนจีน ประจำศูนย์การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ , ภาพ / ข่าว : กลุ่มงานสื่อสารองค์กร
งานประชาสัมพันธ์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

 

logoline