“ไทยรีมิกซ์” กระเเสเพลงที่มีการสร้างสรรค์ดนตรีรูปแบบหนึ่งมีการผสมผสาน และสร้างเเนวดนตรี โดยการนำเพลงต่าง ๆ มาดัดแปลงจังหวะ ทำนอง หรือเพิ่มความน่าสนใจ เช่น การเพิ่มจังหวะปรับเปลี่ยนให้เพลงมีความสนุก สนาน สร้างความแปลกใหม่ยิ่งขึ้น
นอกจากผู้ฟังจะได้ฟังเพลงที่มีความแปลกใหม่ หรือแปลกไปจากเดิมแล้ว การนำเพลงมารีมิกซ์ใหม่นั้นยังเป็นสิ่งหนึ่งที่มีส่วนช่วยในการสร้างการจดจำ หรือทำให้ผู้ฟังเกิดการจดจำต่อเพลงต้นฉบับที่มากยิ่งขึ้น
สำหรับกระแสเพลงไทยรีมิกซ์เป็นกระเเสเพลงที่มีการเกิดขึ้นมาอย่างยาวนาน แต่จะได้รับความนิยมเป็นบางช่วง
กระเเสเพลงไทยรีมิกซ์กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งในช่วงที่เเอปพลิเคชันยอดฮิตอย่าง TikTok ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีโดยมียอดผู้ใช้งานมากกว่า 1.1 พันล้านคนทั่วโลก และจากสถิติตัวเลขพบว่าเเนวโน้มการเติบโตของเเอปพลิเคชันมีเเนวโน้มเพิ่มมาขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เนื่องด้วยตัวเเอปพลิเคชันถูกออกเเบบมาให้ใช้งานได้ง่าย เป็นการนำเสนอวีดีโอทีสั้นกระชับ ทัชใจคนได้ทันที ทำให้ผู้คนสามารถถึงเนื้อหาได้อย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น
TikTok ไม่ใช่เพียงเป็นพื้นที่รับชมความบันเทิงเท่านั้น แต่ในขณะเดียวกันยังเป็นพื้นที่ที่ทำให้ผู้ใช้ได้สร้างสื่อ หรือคอนเทนต์ได้อย่างอิสระ ทำให้เกิดเป็นคอนเทนต์ต่างๆ มากมาย ส่งผลทำให้ในหลายอุตสหกรรมหันมาให้ความสนใจในการนำเสนอเนื้อหาผ่าน TikTok
เช่นเดียวกับอุตสหกรรมดนตรีที่หันมาใช้พื้นที่ TikTok ในการนำเสนอเนื้อหาหรือบทเพลงต่างๆ กระเเสเพลงไทยรีมิกซ์กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง
ส่วนหนึ่งก็เกิดจากการที่ผู้ใช้ TikTok ได้สร้างเนื้อหาเพลงรีมิกซ์ และนำเสนอผ่าน TikTok ซึ่งเกิดจากนักดนตรี ดีเจอิสระ หรือผู้ที่มีความสามารถทางด้านดนตรี ได้สร้างสรรค์ และใช้พื้นที่นี้ในการนำเสนอบทเพลง
ซึ่งในบางบทเพลงมียอดผู้ใช้นำไปสร้างคอนเทนต์มากว่า 3 แสนครั้ง เเละโดยเฉลี่ยมีการนำบทเพลงไปสร้างคอนเทนต์มากกว่า 1 แสนครั้งต่อเพลง โดยผู้ใช้นิยมนำเพลงเหล่านี้ไปประกอบในการผลิตวีดีโอคอนเทนต์ เช่น คอนเทนต์การเต้น การเเสดงต่างๆ
ไทยรีมิกซ์ได้รับความนิยมอย่างมากไม่ใช่เพียงผู้ใช้ในไทยอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีผู้ใช้ TikTok หรือ Content Creator ต่างชาติได้นำเพลงไทยรีมิกซ์ไปประกอบในการนำเสนอคอนเทนต์วีดีโอ เช่นการทำวีดีโอเต้นประกอบเพลงอีกด้วย จึงเป็นส่วนช่วยทำให้เพลงไทยรีมิกซ์เป็นที่รู้จักไปในหลายประเทศ
กระเเสเพลงไทยรีมิกซ์เป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น ทำให้ศิลปิน นักดนตรีหลายท่านสนใจ เเละนำเพลงของตนมารีมิกซ์ใหม่ เช่น PiXXiE ที่ได้นำเพลงเศร้าที่ถ่ายทอดความเสียใจอย่าง “ไม่ได้ก็ไม่เอา” ซึ่งได้นำมารีมิกซ์ใหม่โดยการทำดนตรี เป็นเเนวสามช่า ทำให้เพลงมีความสนุก เเละสร้างความรู้สึกที่แตกต่างไปจากเพลงต้นฉบับ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เเละช่วยทำให้เพลงติดหูผู้ฟัง ซึ่งมียอดผู้เข้าฟัง มากกว่า 1.5 ล้านครั้งบน Youtube
ในขณะเดียวกันความเห็นในเรื่องการนำเพลงมารีมิกซ์ ก็มีความเห็นที่แตกต่างกันไปหลายฝ่าย เนื่องจากกระเเสที่ได้รับความนิยมอย่างมากในโลกออนไลน์ จึงทำให้ผู้คนหันมาสร้างสรรค์ดนตรีเเนวนี้มากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจละเลยไปถึงเรื่องลิขสิทธิ์ หรือผลประโยชน์ของชิ้นงานต่างๆ
ซึ่งผู้ใช้ได้นำความรู้ความสามารถเหล่านี้มาสร้างสรรค์ดนตรี เพื่อสร้าความบันเทิง เเต่ในขณะเดียวกัน อาจมีผู้ใช้บางส่วนที่ได้นำไปใช้ประโยชน์ในทางที่ผิด เพื่อเป็นช่องทางหนึ่งในการดึงดูดคนเพื่อสร้างผลประโยชน์ส่วนตัว
ทำให้ผู้ใช้โลกออนไลน์ต่างแสดงความเห็นที่เเตกต่างกันออกไป ว่าการนำเพลงมารีมิกซ์นั้นมีความผิด หรือมีความเหมาะสมหรือไม่ ผู้ใช้หลายท่านมองว่าหากไม่ได้มีการประกาศห้ามแต่อย่างนั้นก็ควรมีมาตราการเพื่อรักษาสิทธิผลประโยชน์ของเจ้าของผลงานต้นฉบับให้มากยิ่งขึ้น
ในทางกฎหมายมีการกำหนดข้อปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องลิขสิทธิ์ไว้ใน พระราชบัญญัติ ลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ โดยมีการกล่าวถึงเนื้อหาข้อปฏิบัติ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องลิขสิทธิ์ และลิขสิทธิ์ในทางดนตรีไว้ดังนี้
มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัตินี้
“ลิขสิทธิ์” หมายความว่า สิทธิแต่ผู้เดียวที่จะทำการใด ๆ ตามพระราชบัญญัตินี้เกี่ยวกับงาน ที่ผู้สร้างสรรค์ได้ทำขึ้น
“ดนตรีกรรม” หมายความว่า งานเกี่ยวกับเพลงที่แต่งขึ้นเพื่อบรรเลงหรือขับร้องไม่ว่าจะมี ทำนองและคำร้องหรือมีทำนองอย่างเดียว และให้หมายความรวมถึงโน้ตเพลงหรือแผนภูมิเพลงที่ได้แยก และเรียบเรียงเสียงประสานแล้ว
“สิ่งบันทึกเสียง” หมายความว่า งานอันประกอบด้วยลำดับของเสียงดนตรี เสียงการแสดง หรือเสียงอื่นใด โดยบันทึกลงในวัสดุไม่ว่าจะมีลักษณะใดๆ อันสามารถที่จะนำมาเล่นซ้ำได้อีกโดยใช้เครื่องมือ ที่จำเป็นสำหรับการใช้วัสดุนั้น แต่ทั้งนี้มิให้หมายความรวมถึงเสียงประกอบภาพยนตร์หรือเสียงประกอบ โสตทัศนวัสดุอย่างอื่น
ส่วนที่ ๕ การละเมิดลิขสิทธิ์
มาตรา ๒๗ การกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้ โดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา ๑๕ (๕) ให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้าได้กระทำดังต่อไปนี้
(๑) ทำซ้ำหรือดัดแปลง
(๒) เผยแพร่ต่อสาธารณชน
มาตรา ๒๘ การกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่โสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์ หรือสิ่งบันทึกเสียง อันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้โดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา ๑๕ (๕) ทั้งนี้ ไม่ว่าในส่วนที่เป็นเสียง และหรือภาพ ให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้าได้กระทำดังต่อไปนี้
(๑) ทำซ้ำหรือดัดแปลง
(๒) เผยแพร่ต่อสาธารณชน
(๓) ให้เช่าต้นฉบับหรือสำเนางานดังกล่าว
มาตรา ๒๙ การกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่งานแพร่เสียงแพร่ภาพอันมีลิขสิทธิ์ตาม พระราชบัญญัตินี้โดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา ๑๕ (๕) ให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้าได้กระทำ ดังต่อไปนี้
(๑) จัดทำโสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์ สิ่งบันทึกเสียง หรืองานแพร่เสียงแพร่ภาพ ทั้งนี้ ไม่ว่า ทั้งหมดหรือบางส่วน
(๒) แพร่เสียงแพร่ภาพซ้ำ ทั้งนี้ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
(๓) จัดให้ประชาชนฟังและหรือชมงานแพร่เสียงแพร่ภาพ โดยเรียกเก็บเงินหรือผลประโยชน์ อย่างอื่นในทางการค้า
มาตรา ๓๑ ผู้ใดรู้อยู่แล้วหรือมีเหตุอันควรรู้ว่างานใดได้ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่น กระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่งานนั้นเพื่อหากำไร ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำการละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้าได้กระทำดังต่อไปนี้
(๑) ขาย มีไว้เพื่อขาย เสนอขาย ให้เช่า เสนอให้เช่า ให้เช่าซื้อ หรือเสนอให้เช่าซื้อ
(๒) เผยแพร่ต่อสาธารณชน
(๓) แจกจ่ายในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าของลิขสิทธิ์
(๔) นำหรือสั่งเข้ามาในราชอาณาจักร
นอกจากนี้ยังมีการกำหนดบทลงโทษสำหรับการละเมิดในเรื่องลิขสิทธิ์
หมวด ๘ บทกำหนดโทษ
มาตรา ๖๙ ผู้ใดกระทำการละเมิดลิขสิทธิ์หรือสิทธิของนักแสดงตามมาตรา ๒๗ มาตรา ๒๘ มาตรา ๒๙ มาตรา ๓๐ หรือมาตรา ๕๒ ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทำเพื่อการค้า ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่หกเดือนถึงสี่ปี หรือปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงแปดแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๖๙/๑๓๙ ผู้ใดกระทำการละเมิดลิขสิทธิ์ตามมาตรา ๒๘/๑ ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่หกเดือนถึงสี่ปี หรือปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงแปดแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๗๐ ผู้ใดกระทำการละเมิดลิขสิทธิ์ตามมาตรา ๓๑ ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทำเพื่อการค้า ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่สามเดือนถึงสองปี หรือปรับตั้งแต่ห้าหมื่นบาทถึงสี่แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ในส่วนของกฎหมายนั้นก็มีผู้ใช้หลายท่านที่ทราบ เเต่ยังมีการกระทำที่ละเมิดต่อกฎหมาย ทำให้ผู้ใช้ในโลกออนไลน์ต่างแสดงความคิดเห็นออกเป็นหลายเสียงเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมาย เช่น อาจประกาศขอบเขตที่ไม่ชัดเจน หรือกฎหมายมีความซับซ้อน ทำให้ผู้คนไม่เข้าใจถึงขอบเขตการบังคับใช้ และอาจมีช่องโหว่ ทำให้มีผู้ทำการละเมิดต่อกฎหมายอยู่เสมอ
จากการสัมภาษณ์ คุณจิมมี่ วู นักดนตรี เเละครูสอนดนตรี ได้กล่าวถึงประเด็นเรื่องเพลงไทยรีมิกซ์ว่า ในมุมมองของนักดนตรีมีความคิดเห็นว่า กระเเสเพลงไทยรีมิกซ์นั้นมีทั้งในส่วนของข้อดี เเต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีข้อเสีย
การนำเพลงไปรีมิกซ์ใหม่นั้น มีข้อดีในการช่วยเสริมกระเเสเพลง ให้มีการเข้าถึงที่มากขึ้น เป็นส่วนที่ดีต่อผลงาน และยังเป็นช่องทางหนึ่งในการช่วยโปรโมทผลงานของศิลปินต่างๆ ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น แต่ในขณะเดียวกันการสร้างสรรค์ผลงาน ก็จำเป็นที่ต้องคำนึงถึงปัญหาทาด้านลิขสิทธิ์ และเคารพผลงานของศิลปินด้วยเช่นกัน
ช่วงต้นปี 2567 ที่ผ่านมากระเเสเรื่องเพลงบน TikTok กลายเป็นที่ฮือฮา หลังจาก Universal Music ประกาศระงับการให้บริการเพลงบนเเพลตฟอร์ม TikTok เนื่องด้วยสาเหตุเรื่องรายละเอียดการต่ออายุสัญญา
ทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถเข้าถึงเพลงของศิลปินดังจำนวนมากภายใต้ UMG เช่น Taylor Swift, Drake และ Olivia Rodrigo ขณะเดียวกันเดียวค่ายเพลง หรือศิลปินในไทยที่อยู่ภายใต้การดูเเลของ UMG ได้ทยอยออกข้อความแจ้งโดยระบุหัวข้อว่า ประกาศ การหยุดพักให้บริการเพลงบนช่องทาง TikTok เช่น ค่ายเพลง HYPE TRAIN, Billkin Entertainment เป็นต้น
จากละเอียดที่ UMG แจ้งไว้สะท้อนให้เห็นว่าทาง UMG ให้ความสำคัญกับเรื่องผลประโยชน์ของศิลปิน เเละเรื่องลิขสิทธิ์ของผลงาน เช่นเรื่องที่ทาง TikTok การไม่จัดการปัญหาเพลงที่ถูกสร้างด้วย AI จากเพลงลิขสิทธิ์ และปัญหาการบูลลี่ไม่ให้เกียรติต่อศิลปิน
ขณะเดียวกันทางด้าน TikTok ก็ได้ทำการชี้แจงกลับ และย้ำว่าบริษัททำข้อตกลงโดยให้ผลประโยชน์ศิลปินมาเป็นอันดับแรก และทำเช่นนี้กับทุกค่ายเพลง ท้ายที่สุดเเล้วประเด็นนี้ จบลงหลักจากที่ทั้งสองฝ่ายได้ออกประกาศฉบับใหม่หลังบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ ทำให้เพลงดังจากศิลปินหลายท่านกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง
ซึ่งในประเด็นนี้ เป็นส่วนหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของเรื่องลิขสิทธิ์ เช่นเดียวกับกระเเสเพลงไทยรีมิกซ์ ที่ยังเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึง เเละมีความเห็นที่หลากหลาย โดยมองว่า ยิ่งได้รับความนิยมมากเท่าไหร่ ก็ควรดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎระเบียบ เเละข้อบังคับต่างๆ เพื่อทำให้การนำเสนอสื่อ ผลงานนั้นเป็นไปอย่างถูกต้อง เหมาะสม และเป็นธรรมแก่ถูกฝ่าย