จากกรณีเกิดการระบาดของ "อหิวาต์" หรือ อหิวาตกโรค ในพื้นที่เมืองชเวโก๊กโก๋ จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา ตรงข้ามบ้านวังผา ต.แม่จะเรา อ.แม่ระมาด จ.ตาก มีผู้ป่วยที่ถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลชเวโก๊กโก๋ 300 คน ในจำนวนนี้ มีอาการรุนแรง 56 คน ล่าสุดมีผู้เสียชีวิต 2 คน โดยผู้ป่วยยังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ล่าสุด รพ.ชเวโก๊กโก๋ ได้ประสานขอการสนับสนุนด้านการแพทย์มายัง รพ.แม่ระมาด จ.ตาก โดยแจ้งว่าถ้าไม่สามารถส่งผู้ป่วยมาที่ รพ.แม่ระมาดได้ จะขอรับการสนับสนุนยาและเวชภัณฑ์ เพื่อรักษาผู้ป่วย รวมทั้งป้องกันควบคุมโรคในพื้นที่ ซึ่งทาง รพ.แม่ระมาด ได้ให้การสนับสนุนยา และ เวชภัณฑ์ ไปบางส่วนแล้ว
เว็บไซต์โรงพยาบาลกรุงเทพ จันทบุรี ให้ความรู้ "อหิวาตกโรค" โดยมีรายละเอียด ดังนี้..
อหิวาต์ (Cholera) หรือ อหิวาตกโรค เป็นโรคท้องเสียที่มีอาการรุนแรง และระบาดได้รวดเร็ว ในอดีตเคยมีการระบาดของโรคนี้จนมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก จึงถูกเรียกว่า “โรคห่า” ในปัจจุบันความรุนแรงของโรคลดลง ระบาดน้อยลง โรคนี้มักพบในช่วงฤดูร้อน และพบในชุมชนที่การสุขาภิบาลยังไม่ดี
เกิดจากการรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งเชื้อมีอยู่ 2 ชนิด ดังนี้
โดยเชื้ออหิวาต์เหล่านี้จะปล่อยสารพิษ (Toxin) ทำให้เกิดอาการท้องร่วง ซึ่งเชื้อมีระยะฟักตัว 1-5 วัน (เฉลี่ยประมาณ 1-2 วัน)
อหิวาตกโรค เกิดขึ้นทันทีทันใดด้วยอาการท้องเสียถ่ายเหลวอย่างรุนแรง อุจจาระมักจะไหลพุ่งโดยไม่มีอาการปวดท้อง และมีอาเจียนโดยที่ไม่มีอาการคลื่นไส้นำมาก่อน อุจจาระเหมือนน้ำซาวข้าว
ในรายที่เป็นรุนแรง จะมีอาการขาดน้ำรุนแรง และช็อกอย่างรวดเร็ว อาจจะมีเสียงแหบแห้ง เป็นตะคริว ตัวเย็น เหงื่อออก ปัสสาวะออกน้อย ชีพจรเต้นเร็ว ความดันต่ำ ไม่มีไข้ หากรักษาไม่ทันผู้ป่วยมีโอกาสเสียชีวิตได้ในเวลาสั้น ๆ
ในรายที่เกิดจากเชื้ออหิวาต์อย่างอ่อน หรือเชื้อเอลทอร์ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเหลวบ่อยครั้งคล้ายโรคท้องเสีย มักจะหายใน 1-5 วัน
หากอาการท้องเสียรุนแรง ซึ่งชวนสงสัยว่าเป็นอหิวาต์ แพทย์จะพิจารณาเก็บอุจจาระส่งเพาะเชื้อ ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ(ให้น้ำเกลือ) รับประทานยาฆ่าเชื้อตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เมื่อรักษาได้ทันการณ์ มักจะหายขาดภายในไม่กี่วัน โดยไม่มีภาวะแทรกซ้อนแต่อย่างใด อันตรายมักจะเกิดกับผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาช้าเกินการณ์คือ ปล่อยให้มีภาวะขาดน้ำรุนแรง