เปิดความเป็นจริง จากการทดลองที่ทำในหนูทำให้นักวิจัยพบสิ่งที่น่าตกใจว่า "ไมโครพลาสติก" สามารถทะลุแนวกั้นเลือดและสมอง (blood-brain barrier) แล้วเข้าสู่สมองได้ โดยสมองของหนูที่ถูกป้อนด้วยไมโครพลาสติกและนาโนพลาสติกถูกพบว่ามีพลาสติกจิ๋วเหล่านี้หลังจากที่มันกลืนกินเข้าไปเพียง 2 ชั่วโมง บ่งชี้ว่าพลาสติกจิ๋วที่พบได้ทุกที่นี้น่ากังวลมากกว่าที่เคยประเมินไว้
สำหรับงานวิจัยข้างต้นนักวิจัยได้ใช้แบบจำลองหนูเพื่อสังเกตว่าไมโครพลาสติกและนาโนพลาสติกของโพลีสไตรีนที่มีขนาดต่างๆ เคลื่อนที่ไปทั่วร่างกายได้อย่างไร และเข้าไปในสมองได้อย่างไร นักวิจัยใช้หนู 6 ตัวโดยให้อนุภาคพลาสติกทางปากแก่หนู 3 ตัว จากนั้นทำการุณยฆาตใน 2-4 ชั่วโมงต่อมาเพื่อเก็บตัวอย่างสมองสำหรับตรวจหาไมโครและนาโนพลาสติก
ทีมวิจัยพบว่า ไมโครและนาโนพลาสติกชิ้นเล็กสามารถทะลุผ่านแนวกั้นเลือดและสมองและเข้าสู่สมองหลังผ่านไป 2 ชั่วโมง ส่วนอนุภาคที่ชิ้นใหญ่กว่าไม่สามารถผ่านแนวกั้นนี้เข้าสู่สมอง
กลไกไมโครพลาสติกเข้าสู่สมอง?
นักวิทยาศาสตร์อธิบายเรื่องนี้ไว้ว่าว่า ตามปกติแล้วร่างกายจะมีแผงกั้นระหว่างเลือดและสมอง (blood-brain barrier) ที่จะช่วยปกป้องสมองของเราจากภัยคุกคามที่อาจปนเปื้อนเข้ามา เช่น สารพิษหรือสารอันตรายอื่นๆ แต่หากเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์พวกมันจะปล่อยให้ผ่านเข้าไปได้ ดังนั้น นักวิทย์จึงสงสัยว่า ไมโครพลาสติกเหล่านี้เป็นสารแบบไหนกันแน่ถึงได้ผ่านเข้าสมอง ซึ่งฃเรายังต้องศึกษาหาคำตอบต่อไป
ทั้งนี้ นักวิจัยเชื่อว่าเมื่อไมโครพลาสติกและนาโนพลาสติกเข้าไปถึงสมองมันจะเพิ่มความเสี่ยงของโรครุนแรงหลายชนิด ลูคัส เคนเนอร์ หนึ่งในผู้ร่วมวิจัยเผยว่า “ในสมอง อนุภาคพลาสติกอาจเพิ่มความเสี่ยงของการอักเสบ โรคระบบประสาท หรือแม้แต่โรคเสื่อมของระบบประสาท อาทิ อัลไซเมอร์ หรือพาร์กินสัน”
ปัจจุบันไมโครพลาสติกสามารถพบได้ทุกที่ และความจริงอันน่าเศร้าเกี่ยวกับการใช้พลาสติกในเกือบทุกด้านของชีวิตประจำวันคือ พบไมโครพลาสติกและนาโนพลาสติกในสัตว์ทั่วโลก หรือแม้แต่ในรกของมนุษย์ บ่งชี้ว่าเราไม่สามารถเลี่ยงพลาสติกจิ๋วเหล่านี้ได้พ้น เจ้าอนุภาคจิ๋วเหล่านี้สามารถเข้าสู่ร่างกายของมนุษย์ผ่านการดื่มน้ำจากขวดพลาสติกและหีบห่อบรรจุอาหาร มีการประเมินว่าอนุภาคพลาสติก 90,000 ชิ้นสามารถเข้าไปในน้ำดื่มบรรจุขวดของมนุษย์ได้ 1 ขวดในแต่ละปี
นับตั้งแต่มีการค้นพบ ความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพที่เกิดจากไมโครพลาสติกและนาโนพลาสติกก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเกี่ยวข้องกับหลายๆ โรค โดยงานวิจัยก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นว่า ไมโครพลาสติกและนาโนพลาสติกเคลื่อนที่ไปได้ทั่วร่างกาย แต่ขณะนั้นยังไม่แน่ชัดว่าสามารถทะลุเข้าไปถึงสมองมนุษย์จนกว่าจะมีหลักฐานการค้นพบยืนยันอย่างชัดเจน
เมื่อไมโครพลาสติกกลายเป็นมัจจุราชที่เรามองไม่เห็นและยังคงบริโภคมันเข้าไปทุกวัน ในการวิจัยที่ผ่านมาระบุชัดว่าเรากำลังรับไมโครพลาสติกผ่านภาชนะหรือบรรจุภัณฑ์อาหาร ซึ่งตอนนี้แค่ขวดน้ำเปล่าพลาสติกก็สามารถทำให้ไมโครพลาสติกเข้าสู่ร่างกายของเราได้ด้วย มีการศึกษาชิ้นหนึ่งบอกว่า หากใครก็ตามที่ดื่มน้ำ 1.5-2 ลิตรต่อวันจากขวดพลาสติก ผู้คนเหล่านั้นจะบริโภคไมโครพลาสติกเข้าไปประมาณ 90,000 ชิ้นต่อปี แต่หากดื่มจากน้ำประปาตัวเลขของการบริโภคไมโครพลาสติกจะลดลงเหลือ 40,000 ชิ้นต่อปี ซึ่งแบบไหนก็น่ากลัวเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม การจะแก้ไขเรื่องนี้ได้คงจะยากในยุคปัจจุบันนี้ หากเราไม่สามารถลดการใช้งานพลาสติกลงได้ทุกช่องทางและระบบการกำจัดขยะพลาสติกยังไม่สามารถครอบคลุมการรั่วไหลของขยะพลาสติกสู่สิ่งแวดล้อมได้ ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดคือพยายามละและเลิกการใช้งานพลาสติกให้ได้มากที่สุดเพื่อให้พลาสติกปนเปื้อนสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด