เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันอังคาร (15 ตุลาคม) ว่า แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ และลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐ มีจดหมายถึงรัฐบาลอิสราเอลเมื่อวันอาทิตย์ (13 ตุลาคม) เรียกร้องให้อิสราเอลดำเนินมาตรการอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อบรรเทาสถานการณ์เลวร้ายด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา หลังจากอิสราเอลกลับมาโหมโจมตีทางภาคเหนือของฉนวนกาซาระลอกใหม่
จดหมาย ระบุด้วยว่า อิสราเอลปฏิเสธหรือกีดขวางการขนส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมระหว่างภาคเหนือและภาคใต้มากถึงเกือบ 90% ในเดือนที่แล้ว
สหรัฐฯ กำหนดว่า อิสราเอลมีเวลาปฏิบัติตามข้อเรียกร้องภายใน 30 วัน ซึ่งรวมถึงการอนุญาตให้รถบรรทุกความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม 350 คัน เข้าสู่ฉนวนกาซาได้ต่อวัน, การพักรบชั่วคราวเพื่ออนุญาตให้สามารถแจกจ่ายความช่วยเหลือ และยกเลิกคำสั่งให้ชาวปาเลสไตน์อพยพเมื่อไม่มีปฏิบัติการใด ๆ
และหากอิสราเอลไม่ดำเนินมาตรการเหล่านี้อย่างจริงจังต่อเนื่อง อาจขัดต่อนโยบายและกฎหมายของสหรัฐฯ ได้ โดยอ้างถึงมาตรา 620i ของกฎหมายความช่วยเหลือต่างประเทศ ที่ห้ามจัดสรรความช่วยเหลือทางทหารแก่ประเทศ ที่ขัดขวางการลำเลียงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของสหรัฐฯ และอ้างถึงบันทึกความเข้าใจด้านความมั่นคงแห่งชาติที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศในเดือนกุมภาพันธ์ ที่กำหนดให้กระทรวงต่างประเทศรายงานต่อรัฐสภาว่า อิสราเอลให้การรับรองอย่างน่าเชื่อถือว่า การใช้อาวุธของสหรัฐฯ จะไม่ละเมิดกฎหมายของสหรัฐฯ หรือกฎหมายระหว่างประเทศ
โฆษกทำเนียบขาวชี้แจงด้วยว่า จดหมายฉบับนี้ไม่ใช่คำขู่ แต่ย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องเพิ่มความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา
ที่ผ่านมาอิสราเอล ยืนยันว่า ไม่เคยจำกัดจำนวนความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่ฉนวนกาซา และกล่าวโทษว่าหน่วยงานสหประชาชาติไม่สามารถแจกจ่ายสิ่งของช่วยเหลือดังกล่าว และกล่าวหาด้วยว่า ฮามาสขโมยสิ่งของช่วยเหลือ แต่ทางกลุ่มปฏิเสธข้อกล่าวหา