กระทรวงสาธารณสุขของเลบานอน เปิดเผยว่า การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลทำให้มีผู้เสียชีวิต 21 ราย และผู้บาดเจ็บ 8 รายในหมู่บ้านไอโท ที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวคริสต์ในภาคเหนือของประเทศเมื่อวันจันทร์ (14 ตุลาคม) จุดดังกล่าวห่างไกลจากพื้นที่โจมตีของกองทัพอิสราเอลก่อนหน้านี้ที่พุ่งเป้าทำลายเป้าหมายของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในภาคใต้ของประเทศ
กองทัพอิสราเอล ยืนยันว่า มีการโจมตีอาคารที่พักอาศัยหลังหนึ่งในหมู่บ้านไอโท ทางภาคเหนือของเลบานอน และอ้างว่าอาคารดังกล่าวเป็นของฮิซบอลเลาะห์ รวมทั้งกำลังตวจสอบคำอ้างของทางการเลบานอนเกี่ยวกับผู้เสียชีวิต
ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวว่า อิสราเอลจะเดินหน้าโจมตีฮิซบอลเลาะห์อย่างไม่ปราณีในทุกแห่งทั่วเลบานอน รวมถึงกรุงเบรุต การประกาศกร้าวมีขึ้นขณะเยี่ยมฐานทัพในภาคเหนือของอิสราเอล ที่ถูกฝูงโดรนของฮิซบอลเลาะห์โจมตีเมื่อคืนวันอาทิตย์ทำให้ทหาร 4 นาย เสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บอีกราว 60 ราย
ขณะเดียวกันกองทัพอิสราเอลยังคงโหมโจมตีทำลายโครงสร้างพื้นฐานของฮิซบอลเลาะห์อีกราว 200 เป้าหมายในบริเวณภาคใต้ของเลบานอนและลึกเข้าไปจากชายแดนมากขึ้นเมื่อวันจันทร์ โดยเป้าหมายเหล่านี้รวมถึงสมาชิกผู้ก่อการร้าย, ฐานยิงขีปนาวุธต่อต้านรถถัง และเครื่องยิงขีปนาวุธภาคพื้นสู่พื้น และกองทัพอากาศปฏิบัติงานร่วมกับกองกำลังภาคพื้นดิน
ขณะที่ฌอง-ปิแอร์ ลาครัวซ์ รองเลขาธิการสหประชาชาติฝ่ายปฏิบัติการสันติภาพ เปิดเผยว่า กองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็น หรือ ยูนิฟิล ในภาคใต้ของเลบานอนจะยังประจำการในฐานที่มั่นต่อไป แม้อิสราเอลเรียกร้องหลายครั้งให้ย้ายออกไปจากพื้นที่ปฏิบัติการโจมตีของกองทัพ โดยการตัดสินใจนี้ได้รับการสนับสนุนจากทั้งคณะมนตรีความมั่นคงของยูเอ็น และชาติสมาชิกที่ส่งทหารเข้าร่วมภารกิจ
คำยืนยันนี้มีขึ้นหลังจากนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู กล่าวเมื่อวันอาทิตย์โดยย้ำให้ย้ายออกจากฐานทัพในภาคใต้ของเลบานอน เพื่อไม่ให้กลายเป็นโล่มนุษย์ป้องกันให้กับนักรบฮิซบอลเลาะห์
ยูนิฟิลกล่าวหาว่า อิสราเอลจงใจโจมตีฐานทัพ ทำให้ทหารบาดเจ็บ 5 นายในช่วงเกือบหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เนทันยาฮูปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยต่อมาให้คำมั่นว่าจะพยายามอย่างที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก แต่ก็ขอให้ทหารรักษาสันติภาพออกไปจากพื้นที่เสี่ยง