พิธีไว้อาลัยจัดขึ้นในหลายเมืองทั่วสหรัฐฯ และทั่วโลกในเช้าวันจันทร์ (7 ตุลาคม 2567) เพื่อร่วมรำลึกแก่เหยื่อเคราะห์ร้ายในเหตุการณ์กลุ่มติดอาวุธฮามาสจากฉนวนกาซาระดมยิงจรวดโจมตี และบุกกราดยิงในบริเวณชายแดนอิสราเอล ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1,205 ราย เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 และมีตัวประกัน 251 คน ถูกจับตัวไปยังฉนวนกาซา ซึ่ง 101 คน ยังถูกกักตัวไว้ในฉนวนกาซาจนถึงขณะนี้
ประธานาธิบดีไอแซก เฮอร์ซ็อก พร้อมด้วยครอบครัวและเพื่อนของเหยื่อเคราะห์ร้าย ร่วมพิธีสงบนิ่งไว้อาลัยในเวลา 6.29 น. ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลาที่ฮามาสเริ่มบุกสังหารในคิบบุตซ์ เรอิม ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลดนตรีซูเปอร์โนวา และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 347 ราย ซึ่งเป็นจุดนองเลือดที่สุดในวันที่ 7 ตุลาคม 2566 และผู้ร่วมงานดนตรีอีกหลายสิบคนถูกจับไปเป็นตัวประกัน
ส่วนที่นครเยรูซาเลม ครอบครัวตัวประกันเดินขบวนไปตามท้องถนนใกล้บ้านพักส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู และชูภาพของตัวประกัน เพื่อเรียกร้องให้ช่วยเหลือตัวประกันที่ยังเหลืออีก 101 คนกลับประเทศ โดยหลายคน บอกว่า พวกเขายังจมอยู่กับความกลัว ความโกรธแค้น และความสิ้นหวัง
และในกรุงเทลอาวีฟประชาชนรวมตัวที่จัตุรัส ซึ่งจัดแสดงประมวลภาพหน้าหนังสือพิมพ์ฉบับวันที่ 7 ตุลาคม 2566 เพื่อร่วมรำลึกเหตุการณ์โจมตีครั้งนองเลือดที่สุดในประวัติศาสตร์ของอิสราเอล
ก่อนหน้านี้ในวันอาทิตย์ (6 ตุลาคม) กองทัพอิสราเอลเผยแพร่คลิปที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน แสดงให้เห็นทหารอิสราเอล และตำรวจตระเวณชายแดน กำลังปฏิบัติภารกิจที่ "คิบบุตซ์ เรอิม" และภาพเหตุการณ์โจมตีสถานีตำรวจ ในเมือง สเดร็อตที่ถูกกลุ่มติดอาวุธฮามาสยึดครอง ก่อนที่ทหารอิสราเอลใช้ปืนและรถบูลโดเซอร์ยึดกลับมาได้
เหตุการณ์โจมตีของฮามาสทำให้อิสราเอลเปิดฉากสงครามกวาดล้างฮามาสในฉนวนกาซาในวันเดียวกัน และจนถึงขณะนี้ทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตราว 41,870 ราย และอีกกว่า 2 ล้านคน หรือเกือบทั้งหมดของประชากรต้องพลัดถิ่นฐาน
และในวันครบรอบ 1 ปี ของเหตุโจมตีและสงคราม ทำให้มีการชุมนุมและการประท้วงของผู้สนับสนุนทั้งอิสราเอลและปาเลสไตน์ในหลายเมืองทั่วโลก ท่ามกลางเสียงเรียกร้องให้มีการหยุดยิงในฉนวนกาซาและการปล่อยตัวประกัน