กองกำลังป้องกันประเทศของอิสราเอล หรือ ไอดีเอฟ ประกาศเริ่มเปิดฉากบุกภาคพื้นดินแบบกำหนดเป้าหมายอย่างจำกัดเฉพาะพื้นที่ต่อกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ในพื้นที่ภาคใต้ของเลบานอนโดยอาศัยข้อมูลข่าวกรองอย่างแม่นยำแล้วในวันอังคาร (1 ตุลาคม) โดยเป้าหมายเหล่านี้ ตั้งอยู่ในหมู่บ้านใกล้ชายแดน เป็นภัยคุกคามทันทีต่อชุมชนชาวอิสราเอลที่อยู่ทางภาคเหนือของประเทศ นอกจากนี้กองทัพอากาศและหน่วยปืนใหญ่ร่วมสนับสนุนกองกำลังภาคพื้นดินด้วยการการโจมตีอย่างแม่นยำเช่นกัน
ไอดีเอฟ ระบุด้วยว่า การบุกภาคพื้นดินนี้เป็นส่วนหนึ่งของ “ปฏิบัติการ นอร์ธเทิร์น แอร์โรว์ส” ที่เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 23 กันยายน และดำเนินต่อไปตามการประเมินสถานการณ์ ควบคู่กับการสู้รบในฉนวนกาซาและในสนามรบอื่นๆ
ชาวบ้านในบริเวณชายแดนของเลบานอน บอกว่า มีเสียงปืนใหญ่ยิงถล่มอย่างหนักหน่วง และเสียงเฮลิคอปเตอร์และโดรนบินเหนือศีรษะ รวมทั้งมีการยิงพลุแฟลร์เพื่อส่องสว่างให้กับท้องฟ้าในยามค่ำคืนขณะปฏิบัติการช่วงกลางดึกถึงเช้ามืด
และการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลทั่วเลบานอนตลอดวันจันทร์ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 95 ราย และผู้บาดเจ็บ 172 ราย ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตในเลบานอนช่วงสองสัปดาห์เพิ่มเป็นกว่า 1,000 ราย
การบุกภาคพื้นดินมีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนาอิม กัสเซม รองหัวหน้ากลุ่มฮิซบอลเลาะห์ แถลงในวันจันทร์เป็นครั้งแรก หลังจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในกรุงเบรุตเมื่อวันศุกร์ ทำให้ฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ ผู้นำสูงสุดและผู้ร่วมก่อตั้งฮิซบอลเลาะห์เสียชีวิต เขาบอกว่า ฮิซบอลเลาะห์มีความพร้อมรับมือ หากอิสราเอลต้องการบุกภาคพื้นดิน และแม้การสู้รบกับอิสราเอลอาจยาวนาน แต่ฮิซบอลเลาะห์จะเป็นฝ่ายชนะเหมือนในสงครามปี 2549 พร้อมทั้งบอกด้วยว่า ฮิซบอลเลาะห์จะมีการเลือกหัวหน้าคนใหม่ในเร็ว ๆ นี้
อิสราเอลสามารถสังหารนาสรัลเลาะห์ และระดับผู้บัญชาการและเจ้าหน้าที่อีก 6 คน ของฮิซบอลเลาะห์ในช่วง 10 วันที่ผ่านมา และสามารถทำลายเป้าหมายทางทหารของฮิซลอลเลาะห์ได้หลายพันเป้าหมายทั่วเลบานอน
สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า ทหารอิสราเอลข้ามพรมแดนอย่างเงียบ ๆ ผ่านเครือข่ายอุโมงค์ใต้ดินที่ซับซ้อนของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ล่วงหน้าแล้ว ก่อนการบุกภาคพื้นดิน เพื่อรวบรวมข่าวกรองก่อนการโจมตีเต็มรูปแบบ โดยมีเป้าหมายโจมตีที่มั่นที่ยังเหลือของกลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้ และทำลายกองกำลัง "รัดวัน" ซึ่งเป็นกองกำลังพิเศษของฮิซบอลเลาะห์ ที่แนวชายแดนทางตอนเหนือของอิสราเอล
ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐฯ สนทนาทางโทรศัพท์กับโยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมของอิสราเอลในวันจันทร์ และเห็นพ้องต้องกันถึงความจำเป็นในการทำลายโครงสร้างพื้นฐานของฮิซบอลเลาะห์ตามแนวชายแดนของเลบานอนที่ติดกับอิสราเอล เพื่อให้มั่นใจได้ว่า ฮิซบอลเลาะห์จะไม่สามารถปฏิบัติการโจมตีภาคเหนือของอิสราเอลได้แบบกลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566
ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ย้ำก่อนหน้านั้นในวันเดียวกันว่า จำเป็นต้องมีการหยุดยิงในเลบานอนเดี๋ยวนี้ โดยเขาผลักดันข้อเสนอหยุดยิงนาน 21 วันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยมีชาติพันธมิตรอีก 11 ประเทศร่วมสนับสนุน แต่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ปฏิเสธแทบจะทันที
นอกจากนีทำเนียบขาว เปิดเผยกับสื่อด้วยว่า แม้การบุกภาคพื้นดินของอิสราเอลยังอยู่ในขอบเขตของสิทธิการป้องกันตัวเองจากภัยคุกคามจากกลุ่มก่อการร้าย แต่เตือนว่า มีความเสี่ยงที่ภารกิจอาจขยายขอบเขตจนเกินกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ตอนแรก
อิสราเอลประกาศไว้ว่าจะมุ่งทำลายโครงสร้างพื้นฐานของฮิซบอลเลาะห์ และหยุดยั้งไม่ให้สามารถโจมตีภาคเหนือของอิสราเอลได้อีก เพื่อให้ชาวอิสราเอลกว่า 60,000 คน ที่หนีภัยจากชายแดน กลับเข้าสู่ถิ่นฐานได้อย่างปลอดภัย ขณะที่ฮิซบอลเลาะห์ ประกาศว่า จะไม่หยุดโจมตีอิสราเอล จนกว่าอิสราเอลจะหยุดยิงในฉนวนกาซา