พายุเฮอร์ริเคน “เฮลีน” ขึ้นฝั่งฟลอริดาครั้งรุนแรงสุด คร่าชีวิต 3 ราย
พายุ “เฮลีน” ซึ่งเป็นพายุเฮอร์ริเคนรุนแรงระดับ 4 พัดขึ้นฝั่งในรัฐฟลอริดาของสหรัฐฯ ทำให้มีฝนตกหนัก สตอร์มเซิร์จ และลมกระโชกแรง มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย ผู้ว่าการรัฐขอให้ประชาชนอยู่ในบ้านและเลี่ยงสัญจรบนถนน เพราะสตอร์มเซิร์จทำให้ถนนหลายสายถูกน้ำท่วม
พายุเฮอร์ริเคน “เฮลีน” พัดขึ้นฝั่งใกล้เมืองเพอร์รี เขตบิกเบนด์ ของรัฐฟลอริดาด้วยความรุนแรงระดับ 4 มีความเร็วลม 224 กม./ชม. เมื่อคืนวันพฤหัสบดี (26 กันยายน) นับเป็นพายุเฮอร์ริเคนรุนแรงที่สุดที่พัดขึ้นฝั่งในเขตบิกเบนด์ และทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย ในรัฐฟลอริดา และอีก 2 ราย ในรัฐจอร์เจีย แถบฝนของพายุปกคลุมพื้นที่ชายฝั่งของรัฐฟลอรดา และยังมีฝนตกในรัฐจอร์เจีย, เซาท์แคโรไลนา, บางส่วนของนอร์ธแคโรไลนา และบางส่วนของรัฐเทนเนสซี
ประชาชนกว่า 60 ล้านคน ใน 12 รัฐ ได้รับคำเตือนและคำแนะนำให้เฝ้าระวังผลกระทบจากพายุเฮลีน ที่มีขนาดใหญ่และความรุนแรงอย่างมาก และมีประกาศภาวะฉุกเฉินทั้งในรัฐฟลอริดา, จอร์เจีย, นอร์ธแคโรไลนา, เซาท์แคโรไลนา, เวอร์จิเนีย และแอละแบมา
ศูนย์พยากรณ์อากาศแห่งชาติ เตือนว่า พายุจะทำให้เกิดสตอร์มเซิร์จรุนแรงที่คร่าชีวิตได้, ฝนตกหนักและน้ำท่วม รวมทั้งลมกระโชกแรงที่สร้างความเสียหายวงกว้าง
และทางการท้องถิ่นในหลายเมือง ออกคำสั่งให้ประชาชนเร่งอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงแถบชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงเหนือภายในเช้าวันพฤหัสบดี เนื่องจากพายุอาจทำให้เกิดสตอร์มเซิร์จสูงถึง 6 เมตร ที่จะไม่สามารถรอดชีวิตได้ แต่ก็มีรายงานว่า ประชาชนหลายคนไม่ยอมอพยพ และทางการในเขตเทย์เลอร์ เคาน์ตี ออกคำเตือนถึงขั้นให้คนที่ไม่อพยพ เขียนชื่อและข้อมูลระบุตัวตนอื่น ๆ ด้วยหมึกที่ลบไม่ออกบนแขนหรือขา เพื่อให้สะดวกต่อการระบุเอกลักษณ์บุคคล หากตกเป็นผู้เคราะห์ร้าย
ล่าสุดรอน ดิแซนทิส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา แถลงในคืนวันพฤหัสบดี โดยขอให้ประชาชนอยู่ภายในบ้าน และหลีกเลี่ยงการสัญจรบนท้องถนน เพราะมีรายงานเกิดสตอร์มเซิร์จในแถบเซาท์เวสต์และแทมปา เบย์ ทำให้น้ำท่วมถนนหลายสาย ซึ่งเป็นอันตรายต่อการขับขี่เขายังเตือนให้ระวังต้นไม้และเสาไฟฟ้าหักโค่น และเศษซากต่าง ๆ ปลิวกระจายเนื่องจากกระแสลมแรง โดยแนะนำให้เฝ้าระวังความปลอดภัยเหมือนเผชิญสถานการณ์พายุทอร์นาโด
นอกจากนี้ศูนย์พยากรณ์อากาศแห่งชาติ รายงานคืบหน้าว่า พายุเฮลีนอ่อนกำลังลงเป็นพายุเฮอร์ริเคนระดับ 2 และมีความเร็วลมลดลงเหลือ 176 กม./ชม. ซึ่งยังคงทำให้มีลมกระโชกแรงที่สร้างความหายนะได้ และตาพายุเคลื่อนตัวเข้าสู่รัฐจอร์เจียแล้ว
ขณะที่มีรายงานว่า พายุทำให้ครัวเรือนและธุรกิจกว่า 1.5 ล้านราย ทั่วรัฐฟลอริดา, จอร์เจีย, นอร์ธแคโรไลนา และเซาท์แคโรไลนา ไม่มีไฟฟ้าใช้ โรงเรียนและมหาวิทยาลัย และธุรกิจต่าง ๆ ปิดทำการ สนามบินบางแห่งปิด และเที่ยวบินถูกยกเลิกจำนวนมากทั้งในรัฐฟลอริดา และรัฐอื่น ๆ
