ศาลฮ่องกงมีคำตัดสินในวันพฤหัสบดี (26 กันยายน) ให้นายจง ปุ้ย กวน อดีตบรรณาธิการบริหาร และนายแพทริก หล่ำ อดีตรักษาการบรรณาธิการบริหาร ของสแตนด์ นิวส์ เวบไซต์ข่าวอิสระ รับโทษจำคุก 21 เดือน เนื่องจากเผยแพร่บทความที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการปลุกปั่น
แต่นายหล่ำได้รับการลดโทษครึ่งหนึ่งด้วยเหตุผลเรื่องปัญหาสุขภาพ และเนื่องจากเขาถูกคุมขังระหว่างการสู้คดีเท่าจำนวนเวลาดังกล่าวแล้ว จึงได้รับการปล่อยตัว ส่วนบริษัท เบสต์ เพนซิล ที่เป็นเจ้าของสแตนด์ นิวส์ ต้องรับโทษปรับ 5,000 ดอลลาร์ฮ่องกง
คดีนี้เป็นการดำเนินคดีข้อหาปลุกปั่นกับสื่อมวลชนครั้งแรก ภายใต้กฎหมายว่าด้วยการปลุกปั่นที่บังคับใช้ในยุคอาณานิคม นับจากอังกฤษส่งมอบฮ่องกงคืนให้จีนในปี 2540
หลังจากการพิจารณาคดีเริ่มขึ้นในเดือนตุลาคม 2565 ผู้พิพากษามีคำตัดสินเมื่อเดือนที่แล้วว่า นายจงและนายหล่ำมีความผิดคดีปลุกปั่น เนื่องจากพบว่า บทความ 11 ชิ้น จาก 17 ชิ้น ที่เผยแพร่โดยสแตนด์ นิวส์ มีเนื้อหาปลุกปั่น และสแตนด์ นิวส์ เป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ โดยบทบรรณาธิการมีเนื้อหาสนับสนุนอำนาจปกครองตนเองในฮ่องกง และถูกใช้เป็นเครื่องมือให้ร้ายป้ายสีแก่รัฐบาลจีนและรัฐบาลฮ่อกง
สแตนด์ นิวส์ เป็นหนึ่งในสำนักข่าวออนไลน์จำนวนไม่กี่แห่ง ที่มีชื่อเสียงโดดเด่นในช่วงการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยครั้งใหญ่ในปี 2562 และกล้าวิจารณ์รัฐบาลจีนเกี่ยวกับการปราบปรามผู้เห็นต่างอย่างหนักหลังการประท้วง
แต่สแตนด์ นิวส์ ปิดตัวในเดือนธันวาคม 2564 หลังตำรวจกว่า 200 นาย บุกตรวจค้นสำนักงาน และจับกุมพนักงาน 7 คน โดยกล่าวหาว่าสมคบคิดเผยแพร่เนื้อหาปลุกปั่น ซึ่งรวมถึงการสัมภาษณ์นักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย