รัฐบาลเวียดนามเผยล่าสุดเกี่ยวกับความเสียหายจากพายุไต้ฝุ่นยางิ ที่พัดขึ้นฝั่งในชายฝั่งภาคเหนือเมื่อวันเสาร์ (7 กันยายน) ว่า พายุทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มในหลายจังหวัด คร่าชีวิตประชาชนอย่างน้อย 59 ราย โดย 44 ราย เสียชีวิตจากดินถล่ม และยังมีผู้บาดเจ็บรวมอีกหลายร้อยราย พายุยังทำให้เกิดไฟดับและการสื่อสารโทรคมนาคมถูกตัดขาดในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในจังหวัดกว๋างนิญ และเมืองไฮฟอง ซึ่งเป็นจุดที่พายุพัดขึ้นฝั่งด้วยความรุนแรงระดับไต้ฝุ่น ก่อนอ่อนกำลังเป็นดีเปรสชั่นในวันอาทิตย์
แต่ศูนย์อุตุนิยมวิทยา เตือนในวันจันทร์ (9 กันยายน) ว่า อิทธิพลของพายุจะยังคงทำให้มีฝนตกอีก 2-3 วัน และอาจเกิดน้ำท่วมและดินถล่มมากขึ้นอีก เนื่องจากในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกวัดได้ราว 208-433 มิลลิเมตรทั่วภูมิภาค
ทางหลวงบางสายในภาคเหนือของเวียดนามถูกน้ำท่วมหรือใช้สัญจรไม่ได้ แม่น้ำหลายสายเอ่อล้น และกระแสน้ำเชี่ยวกรากยังทำให้สะพานขาดในจังหวัดฟู้เถาะ ส่งผลให้รถยนต์ 10 คัน และสกูตเตอร์ 2 คัน ตกลงไปในแม่น้ำ เจ้าหน้าที่ช่วยชีวิตได้ 3 คน และยังมีผู้สูญหาย 13 คน นอกกจากนี้ทะเลมีคลื่นสูง ทำให้เรือประมง 41 ลำ จมหายหรือถูกซัดลอยไปไกล และหน่วยกู้ภัยช่วยชีวิตผู้เคราะห์ร้ายในทะเลได้ 27 ราย
และในเมืองไฮฟอง ซึ่งมีประชากร 2 ล้านคน และเป็นที่ตั้งของโรงงานบริษัทข้ามชาติหลายแห่ง ได้รับผลกระทบอย่างมาก โดยนิคมอุตสากรรมยังคงปิดทำการเมื่อวันอาทิตย์ บางพื้นที่มีน้ำท่วมสูงครึ่งเมตร โรงงานหลายแห่งถูกน้ำท่วม หรือได้รับความเสียหายจากลมแรง เกิดไฟดับ น้ำประปาและเครือข่ายโทรคมนาคมใช้งานไม่ได้ เฉพาะในนิคมอุตสาหกรรม DEEP C ที่มีโรงงานจากบริษัทกว่า 150 แห่งในไฮฟองและกว๋างนิญ พบว่า โรงงานอย่างน้อย 80% ได้รับความเสียหาย แต่นิคมอุตสาหกรรมไม่ถูกน้ำท่วม
ก่อนหน้านี้พายุยางิพัดขึ้นฝั่งในมณฑลไห่หนานทางภาคใต้ของจีนด้วยความรุนแรงระดับซูเปอร์ไต้ฝุ่นเมื่อวันศุกร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย และผู้บาดเจ็บ 95 ราย และพายุพัดถล่มฟิลิปปินส์ขณะเป็นเพียงพายุโซนร้อนช่วงต้นสัปดาห์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 20 ราย และผู้สูญหาย 26 ราย พายุยางินับเป็นพายุรุนแรงที่สุดในเอเชียในปีนี้