หน่วยงานบรรเทาภัยพิบัติธรรมชาติของเวียดนาม รายงานในวันอาทิตย์ (8 กันยายน) ว่า พายุยางิ ซึ่งเป็นพายุรุนแรงที่สุดในเอเชียในปีนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 ราย และผู้บาดเจ็บ 219 ราย หลังจากพายุพัดขึ้นฝั่งด้วยความรุนแรงระดับพายุไต้ฝุ่นที่เมืองไฮฟองและจังหวัดกว๋างนิญทางภาคเหนือของเวียดนามเมื่อบ่ายวันเสาร์
นอกจากนี้กระทรวงเกษตรและพัฒนาชน ระบุว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด มี 4 ราย อยู่ในจังหวัดกว๋างนิญ, อีก 3 ราย อยู่ในกรุงฮานอย และอีก 4 ราย เสียชีวิตจากดินถล่มในจังหวัดฮวาบิ่ญ และผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดกว๋างนิญ
พายุยางิ ซึ่งพัดขึ้นฝั่งเวียดนามด้วยความเร็วลม 149 กม./ชม. ทำให้เกิดคลื่นสูง 4 เมตร ในหลายจังหวัดริมชายฝั่ง บ้านเรือนได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมและลมแรงกว่า 3,200 หลัง ต้นไม้และเสาไฟฟ้าหักโค่น ทำให้เกิดไฟดับและสัญญาณโทรคมนาคมถูกตัดขาด ซึ่งสร้างความยากลำบากในการประเมินความเสียหายจากพายุ
ขณะเดียวกันมีรายงานเรือล่ม 25 ลำในจุดที่ทอดสมอในจังหวัดกว๋างนิญ ชาวประมงสูญหาย 13 คน และเมืองไฮฟอง ที่เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรม เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายที่สุด มีน้ำท่วมเกือบ 50 ซม. ในบางพื้นที่ และเกิดไฟดับวงกว้าง
ด้านสำนักงานอุตุนิยมวิทยา ประกาศว่า พายุอ่อนกำลังเป็นดีเปรสชันแล้วในวันอาทิตย์ แต่ยังเตือนมีความเสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม ขณะพายุมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตก
ส่วนสถานการณ์ในกรุงฮานอยเริ่มอยู่ในความสงบในวันนี้ และเจ้าหน้าที่เริ่มเก็บกวาดถนน ที่มีต้นไม้หักโค่นกีดขวางทั่วเมือง สนามบินโหน่ยบ่ายในกรุงฮานอยเริ่มกลับมาให้บริการแล้ว หลังจากปิดบริการเช่นเดียวกับสนามบินอีก 3 แห่งในเมืองท่าตามแนวชายฝั่ง ได้แก่ เมืองไฮฟอง จังหวัดกว๋างนิญ และจังหวัดทัญฮว้า เมื่อวันเสาร์
ก่อนหน้านี้พายุยางิพัดขึ้นฝั่งในมณฑลไห่หนานทางภาคใต้ของจีนด้วยความรุนแรงระดับซูเปอร์ไต้ฝุ่นเมื่อวันศุกร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย และผู้บาดเจ็บ 95 ราย และพายุพัดถล่มฟิลิปปินส์ขณะเป็นเพียงพายุโซนร้อนช่วงต้นสัปดาห์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 20 ราย และผู้สูญหาย 26 ราย