svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

บังกลาเทศแต่งตั้ง “มูฮัมหมัด ยูนุส” เป็นผู้นำรัฐบาลชั่วคราว

มูฮัมหมัด ยูนุส เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพของบังกลาเทศ ได้รับเลือกเป็นผู้นำรัฐบาลชั่วคราว หลังจากชีค ฮาสินา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและหนีออกนอกประเทส หลังเผชิญการประท้วงขับไล่ครั้งใหญ่

ทำเนียบประธานาธิบดีประกาศในเช้าวันพุธ (7 สิงหาคม) ว่า มูฮัมหมัด ยูนุส ผู้ก่อตั้งธนาคารกรามีน ซึ่งปล่อยสินเชื่อรายย่อยแก่คนคน  ได้รับเลือกเป็นผู้นำรัฐบาลชั่วคราว และจะมีการแต่งตั้งบุคคลอื่น ๆ ในคณะรัฐบาลชั่วคราวในภายหลัง เมื่อมีการหารือกับพรรคการเมืองและผู้เกี่ยวข้องอื่น ๆ

การตัดสินใจแต่งตั้งยูนุส นักเศรษฐศาสตร์และนักการธนาคาร วัย 84 ปี เป็นไปตามข้อเรียกร้องของกลุ่มนักศึกษาที่นำขบวนประท้วงขับไล่นายกรัฐมนตรีชีค ฮาสินาพ้นตำแหน่งได้สำเร็จ หลังจากมีการหารือระหว่างประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด ชาฮาบุดดิน กลุ่มนักศึกษา ผู้บัญชาการทหาร ตัวแทนพรรคการเมืองต่าง ๆ และภาคประชาสังคมเมื่อวันอังคาร โดยกลุ่มนักศึกษาประกาศว่า จะไม่ยอมรัฐบาลชั่วคราว ที่จัดตั้งโดยกองทัพหรือได้รับการสนับสนุนจากกองทัพ

บังกลาเทศแต่งตั้ง “มูฮัมหมัด ยูนุส” เป็นผู้นำรัฐบาลชั่วคราว

ยูนุสได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปี 2549 จากการเป็นผู้บุกเบิกก่อตั้งธนาคารกรามีน ที่ปล่อยสินเชื่อรายย่อยแก่คนจนในปี 2526 เพื่อให้สามารถเริ่มต้นธุรกิจ และกลายเป็นแนวคิดที่แพร่หลายไปทั่วโลก

แต่เขากลับถูกฮาสินามองว่าเป็นตัวสูบเลือดคนจน และกล่าวหาว่าธนาคารของเขาคิดดอกเบี้ยสูงลิบลิ่ว และในเดือนมกราคม เขาถูกตัดสินจำคุก 6 เดือน ข้อหาละเมิดกฎหมายแรงงาน จากการไม่จัดตั้งกองทุนสวัสดิการให้กับพนักงาน ซึ่งผู้สนับสนุนมองว่าเป็นการดำเนินคดีที่มีเหตุจูงใจทางการเมือง นอกจากนี้เขายังเผชิญคดีอื่น ๆ อีก รวมถึง เลี่ยงภาษี และยักยอกทรัพย์ แต่เขาปฏิเสธข้อกล่าวหา

บังกลาเทศแต่งตั้ง “มูฮัมหมัด ยูนุส” เป็นผู้นำรัฐบาลชั่วคราว

นางฮาสินายอมลาออกจากตำแหน่งและหนีไปอินเดียในวันจันทร์ (5 สิงหาคม) หลังเผชิญการประท้วงนานหลายสัปดาห์ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมจากกลุ่มผู้ประท้วงนำโดยนักศึกษาที่ต้องการให้ยกเลิกระบบโควตาตำแหน่งงานภาครัฐ ก่อนนำไปสูการสลายผู้ชุมนุมอย่างนองเลือดที่มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยราย และการเรียกร้องให้ลาออก

การลาออกของเธอทำให้ประชาชนออกมาเฉลิมฉลองทั่วประเทศ ถือเป็นการสิ้นสุดการปกครองบังกลาเทศยาวนาน 15 ปี หลังจากเพิ่งได้รับเลือกตั้งสมัยที่ 4 ติดต่อกันเมื่อเดือนมกราคม ก่อนหน้านั้นเธอได้รับเลือกตั้งสมัยแรกในปี 2539 และกลับมาชนะเลือกตั้งอีกครั้งในปี 2552 และอยู่ในอำนาจต่อเนื่องจนถึงปีนี้ กลายเป็นผู้นำที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์บังกลาเทศ