แกนนำนักศึกษายกระดับการประท้วงต่อต้านรัฐบาลในวันอาทิตย์ (4 สิงหาคม) โดยรณรงค์ให้ประชาชนร่วมแสดงอารยะขัดขืน ในขณะที่ผู้ประท้วงหลายหมื่นคนเดินขบวนทั่วกรุงธากาและอีกหลายเมืองทั่วประเทศ และตำรวจใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางเข้าสลายฝูงชนในหลายพื้นที่
รายงานจากตำรวจและโรงพยาบาล ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 23 ราย และผู้บาดเจ็บมากกว่า 200 ราย จากการประท้วงครั้งล่าสุดา ขณะที่รัฐบาลประกาศใช้มาตรการเคอร์ฟิว ที่เริ่มตั้งแต่ 18.00 น. วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น และบังคับใช้อย่างไม่มีกำหนด รวมทั้งตัดระบบการสื่อสารเพื่อควบคุมสถานการณ์
ขณะนี้ผู้ประท้วงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีชีค ฮาสินา ลาออก หลังจากการประท้วงที่เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคมโดยกลุ่มนักศึกษาต้องการให้รัฐบาลยกเลิกระบบโควตาตำแหน่งงานราชการ และการประท้วงกลายเป็นการปะทะนองเลือดหลายครั้งทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมมากกว่า 200 รายแล้ว ซึ่งหลายรายถูกยิงเสียชีวิต
นอกจากนี้ล่าสุดแกนนำการประท้วงเรียกร้องให้ประชาชนร่วมแสดงอารยะขัดขืน โดยไม่จ่ายภาษีและค่าสาธารณูปโภคแก่ภาครัฐ และหยุดงานในวันอาทิตย์ ซึ่งปกติเป็นวันทำงานในบังกลาเทศ แม้สำนักงาน ธนาคาร และโรงงานยังเปิดในวันนี้ แต่ประชาชนในกรุงธากาและอีกหลายเมืองประสบความยากลำบากในการเดินทางไปทำงาน
เดิมระบบโควตากำหนดให้สงวนตำแหน่งงานราชการ 30% ให้ครอบครัวของทหารผ่านศึก ที่ต่อสู้เพื่อให้บังกลาเทศแยกตัวเป็นเอกราชจากปากีสถานในปี 2514 แต่หลังการประท้วงรุนแรง ศาลฎีกามีคำสั่งให้ลดโควตาเหลือเพียง 5% โดย 3% สงวนให้กับครอบครัวทหารผ่านศึก
แต่ผู้ประท้วงยืนหยัดชุมนุมต่อไปเพื่อกดดันให้รัฐบาลลงโทษผู้มีส่วนรับผิดชอบต่อการใช้ความรุนแรงสลายผู้ประท้วงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก โดยกล่าวโทษว่ารัฐบาลใช้กำลังเกินกว่าเหตุ และมีผู้ประท้วงถูกจับกุมอย่างน้อย 11,000 ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา