ไฟป่าครั้งใหญ่ระลอกแรกที่เริ่มลุกไหม้ในภาคตะวันตกของแคนาดาเมื่อคืนวันศุกร์ เผาผืนป่าจนถึงเมื่อวันอาทิตย์ ครอบคลุมพื้นที่เกือบ 10,000 เฮกตาร์ ทำให้ต้องมีการสั่งอพยพประชาชนรวมหลายพันคนในรัฐบริติชโคลัมเบีย และรัฐแอลเบอร์ตา โดยไฟป่าเผาพื้นที่ราว 4,136 เฮกตาร์ ในฟอร์ต เนลสัน รัฐบริติชโคลัมเบีย และอีก 5,500 เฮกตาร์ใกล้ฟอร์ต แมคเมอร์เรย์ รัฐแอลเบอร์ตา
ควันไฟจากไฟป่าทำให้หน่วยงานสิ่งแวดล้อมต้องประกาศเตือนภัยคุณภาพอากาศจากรัฐบริติชโคลัมเบียไปจนถึงรัฐออนแทริโอ
นอกจากนี้ควันไฟยังส่งผลกระทบไปถึงรัฐมินนิโซตา และรัฐวิสคอนซินของสหรัฐฯ เมื่อวันอาทิตย์ ทำให้ต้องประกาศเตือนภัยคุณภาพอากาศในทั้งสองรัฐจนถึงวันจันทร์ โดยคาดว่า ระดับเตือนภัยในมินนิโซตาจะปรับขึ้นเป็นระดับสีแดง ที่เป็นระดับสูงสุด และหมายถึงส่งผลกระทบต่อสุขภาพของทุกคน หน่วยงานควบคุมมลพิษของมินนิโซตา แนะนำให้ประชาชนลดกิจกรรมกลางแจ้ง
ขณะที่รัฐบาลแคนาดา เตือนว่า แคนาดาจะเผชิญฤดูไฟป่าครั้งหายนะอีกครั้ง เนื่องจากคาดว่า อุณหภูมิในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนจะสูงกว่าปกติในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ เนื่องจากอิทธิพลของปรากฏการณ์เอลนีโญ
ในปีที่แล้วแคนาดาประสบไฟป่าครั้งเลวร้ายที่สุด มีไฟป่ามากกว่า 6,600 จุด เผาผลาญพื้นที่มากถึง 15 ล้านเฮกตาร์ ซึ่งมากกว่าระดับเฉลี่ยแต่ละปีถึงเกือบ 7 เท่า มีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเสียชีวิต 8 ราย และประชาชน 230,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน
และในเดือนมิถุนายน 2566 ควันไฟจากไฟป่าแคนาดาปกคลุมทั้งในแถบนอร์ธอีสต์ และมิดเวสต์ของสหรัฐฯ ทำให้เกิดหมอกสีส้มหนาทึบปกคลุม โดย 18 รัฐ ในสหรัฐฯ อยู่ภายใต้ประกาศเตือนภัยคุณภาพอากาศ และนครนิวยอร์กติดอันดับเมืองที่มีคุณภาพอากาศเลวร้ายที่สุดในโลกด้วย