โจฮารี อับดุล กานี รัฐมนตรีกระทรวงการเพาะปลูกและสินค้าโภคภัณฑ์ของมาเลเซีย โพสต์ใน X เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมว่า มาเลเซียจะมอบลิงอุรังอุตังเป็นของขวัญให้กับประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะผู้นำเข้าน้ำมันปาล์มรายใหญ่ อย่าง สหภาพยุโรป อินเดีย และจีน โดยเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ทางการทูต เพื่อแสดงให้ประเทศต่าง ๆ ในทั่วโลกเห็นว่า มาเลเซียเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันปาล์มด้วยวิถียั่งยืน และมุ่งมั่นคุ้มครองความยั่งยืนของป่าและสิ่งแวดล้อม
ข้อเสนอนี้มีขึ้นหลังจากสหภาพยุโรป (อียู) มีมติในปี 2566 ห้ามการนำเข้าสินค้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งอาจกระทบต่อน้ำมันปาล์ม และมาเลเซีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันปาล์มรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกรองจากอินโดนีเซีย บอกว่า กฎหมายดังกล่าวของอียูเป็นการเลือกปฏิบัติ
แต่นโยบายมอบลิงอุรังอุตัง ซึ่งคล้ายคลึงกับนโยบาย “การทูตแพนดา” ของจีน สร้างความกังวลแก่กลุ่มอนุรักษ์สัตว์ป่า ที่ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาออกมาตรการอื่น ๆ เพื่อคุ้มครองถิ่นที่อยู่อาศัยของลิงอุรังอุตัง และพัฒนาการผลิตน้ำมันปาล์มที่ยั่งยืน
กองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) ระบุว่า ลิงอุรังอุตังเป็นสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ โดยมีจำนวนประชากรไม่ถึง 105,000 ตัว บนเกาะบอร์เนียว และ WWF มาเลเซีย บอกว่า พื้นที่เพาะปลูกปาล์มน้ำมันควรแยกห่างจากพื้นที่ปลอดภัยสำหรับลิงอุรังอุตัง และรัฐบาลควรหยุดยั้งการทำลายผืนป่าเพื่อเป็นพื้นที่เพาะปลูก นอกจากนี้ยังตั้งข้อสงสัยว่า การมอบลิงอุรังอุตังจะส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ชนิดนี้ได้อย่างไร และแสดงความเห็นคัดค้านการส่งลิงอุรังอุตังออกนอกประเทศ
นอกจากนี้กลุ่มความยุติธรรมเพื่อสัตว์ป่ามาเลเซีย เรียกร้องให้รัฐบาลมาเลเซียทบทวนมาตรการทางการทูตอื่น ๆ โดยให้เหตุผลว่าจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจาก “การทูตอุรังอุตัง” และความเป็นไปได้ที่แผนนี้จะกระทบต่อแนวทางอื่น ๆ ของการอนุรักษ์สัตว์ชนิดนี้