อิหร่านจัดพิธีสวนสนามประจำปีเนื่องในวันกองทัพที่ค่ายทหารทางตอนเหนือของกรุงเตหะรานในวันพุธ (16 เมษายน 2567) โดยมีการแสดงอาวุธยุทโปกรณ์มากมาย รวมถึง โดรน และขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยไกล แต่ปีนี้ย้ายสถานที่จัดงานจากเดิมจัดบนทางหลวงแถบชานเมืองทางตอนใต้ของกรุงเตหะราน ทางการไม่ได้เปิดเผยเหตุผลของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ และสถานีโทรทัศน์ของทางการไม่ได้ถ่ายทอดสดอีกด้วย แตกต่างจากปีอื่น ๆ ที่ผ่านมา
ประธานาธิบดีเอบราฮิม ไรซี กล่าวในพิธีสวนสนาม โดยเตือนว่า หากอิสราเอล ละเมิดบูรณภาพทางดินแดนของอิหร่าน และทำลายผลประโยชน์ของอิหร่านแม้เพียงเล็กน้อยที่สุด จะต้องเผชิญกับการตอบโต้ที่รุนแรงและหนักหน่วง
เขาบอกด้วยว่า “ยุทธการสัจจะสัญญา” (True Promise”) ซึ่งหมายถึง ปฏิบัติการล้างแค้นอิสราเอลเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2567 เป็นปฏิบัติการอย่างจำกัด เพื่อลงโทษรัฐบาลไซออนนิสต์ และพุ่งเป้าทำลายสถานที่ที่อิสราเอลใช้โจมตีสถานกงสุลของอิหร่านในกรุงดามัสกัสของซีเรียเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2567 มิฉะนั้นหากอิหร่านใช้ปฏิบัติการโจมตีที่รุนแรงกว่านี้ รัฐบาลอิสราเอลจะย่อยยับไม่เหลือชิ้นดี
นอกจากนี้ไรซี ยังวิจารณ์ประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคที่พยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์กับอิสราเอล และเรียกร้องให้ชาติเหล่านั้นมั่นใจว่า กองทัพอิหร่านเป็นผู้รักษาความมั่นคง และผู้สร้างสันติภาพในภูมิภาค
เมื่อปี 2563 สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ บาห์เรน และโมร็อกโก ได้ฟื้นฟูความสัมพันธ์สู่ระดับปกติกับอิสราเอลภายใต้ข้อตกลงที่ได้รับการไกล่เกลี่ยจากสหรัฐฯ ก่อนหน้านั้นอียิปต์และจอร์แดนลงนามสัญญาสันติภาพกับอิสราเอลในปี 2522 และ 2537 ตามลำดับ
ขณะเดียวกันสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรในยุโรป กำลังพยายามกดดันให้อิสราเอลใช้ความอดกลั้น และไม่ตอบโต้กลับต่ออิหร่าน โดยให้คำมั่นว่า จะใช้มาตรการคว่ำบาตรขั้นรุนแรง กับอิหร่านเพื่อตัดแหล่งรายได้ของอิหร่าน ไม่ให้สามารถส่งออกน้ำมันเพื่อนำรายได้ไปใช้ผลิตโดรนโจมตี
ส่วนการประชุมของคณะรัฐมนตรีสงครามอิสราเอลเมื่อวันอังคารยังคงไม่ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับแนวทางการตอบโต้อิหร่าน ซึ่งมีการพิจารณาทั้งมาตรการทางทหารและทางการทูต และกองทัพอิสราเอลเผยแพร่ภาพซากขีปนาวุธของอิหร่านที่เก็บกู้ได้จากทะเลแดง โดยเป็นส่วนหนึ่งของขีปนาวุธและโดรนรวมกว่า 300 ลูก ที่ติดวัตถุระเบิดน้ำหนักรวม 60 ตัน ที่อิหร่านใช้โจมตีอิสราเอล แต่ 99% ของจำนวนดังกล่าวถูกสกัดไว้ได้
ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นของมหาวิทยาลัยฮิบรู ของอิสราเอล ที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร บอกว่า ชาวอิสราเอลเกือบ 74% คัดค้านการโจมตีเพื่อตอบโต้กลับอิหร่าน หากจะส่งผลกระทบต่อพันธมิตรด้านความมั่นคงระหว่างอิสราเอลกับชาติพันธมิตร