นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นที่รู้กันดีว่า รัฐบาลเมียนมาเริ่มสูญเสียกำลัง และเขาอยากเสนอความเห็นต่างว่า เมื่อบางคนกำลังอ่อนแอ ก็ควรจะเจรจากับเขา เพราะถึงแม้จะอ่อนกำลังลง แต่ก็ยังมีทั้งอำนาจและอาวุธ และหากพวกเขารู้ตัวว่า อ่อนแอกว่าฝ่ายต่อต้าน ก็ถึงเวลาที่จะต้องหาทางเจรจาและบรรลุข้อตกลง นอกจากนี้อาจเป็นเวลาที่พวกเขาจะตระหนักได้ว่า การตัดสินใจที่ชาญฉลาดจะเกิดขึ้นได้เมื่อมีประชาชนอยู่ในใจ
รัฐบาลทหารเมียนมากำลังเผชิญการต่อสู้จากแนวรบหลายด้านกับกองกำลังฝ่ายต่อต้าน ที่สามารถยึดค่ายทหารและเมืองหลายแห่ง รวมถึงเมืองในจังหวัดเมียวดีใกล้ชายแดนไทยเมื่อวันศุกร์
ไทยมีการติดต่อสัมพันธ์กับเมียนมาหลายครั้งนับจากนายเศรษฐาเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว รวมถึง การส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังเมียนมาเพื่อปูทางสู่การจรจาระหว่างคู่ขัดแย้ง
นอกจากประเด็นเมียนมาแล้ว นายกรัฐมนตรียังกล่าวด้วยว่า ระเบียบโลกกำลังถูกคุกคาม ไทยจึงจำเป็นต้องมีเครื่องมือเพื่อให้มั่นใจว่าประเทศมีที่ยืนในเวทีโลกที่ผันผวน และบอกด้วยว่า ไทยมีจุดยืนความเป็นกลางทั้งในเรื่องสงครามระหว่างอิสราเอล-ฮามาส ความขัดแย้งระหว่างจีน-สหรัฐฯ ปัญหาทะเลจีนใต้ รวมถึงสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และหวังว่า จะมีการบรรลุแนวทางสันติระหว่างคู่พิพาทได้