นับตั้งแต่เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว หลังจากที่จีนอนุมัติการนำเข้าทุเรียนสดจากเวียดนาม ก็มีทุเรียนเวียดนามที่หลั่งไหลเข้าตลาดจีนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีเมืองเหอโข่วของมณฑลยูนนานทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนซึ่งมีชายแดนติดกับเวียดนามเป็นช่องทางหลักในการจัดจำหน่าย ทำให้การขนส่งผลไม้นำเข้าเป็นไปอย่างค่อนข้างสะดวกสบายและได้เปรียบมากกว่าประเทศผู้ส่งออกทุเรียนรายอื่นๆ
จากข้อมูลตัวเลขส่งออกของสมาคมผักและผลไม้เวียดนามตั้งแต่เดือนมกราคมถึงตุลาคมที่ผ่านมา พบว่า เวียดนามส่งออกทุเรียนเป็นมูลค่า 2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเกือบ 1.9 พันล้านมาจากการส่งออกไปยังประเทศจีน
แม้ว่าความเห็นของคนส่วนใหญ่ที่มีต่อทุเรียนจะแบ่งเป็นสองฝ่ายอย่างชัดเจน บางคนที่ชื่นชอบก็มองว่าทุเรียนคือราชาแห่งผลไม้ ในขณะที่บางคนพยายามหลีกเลี่ยงเพราะไม่ชอบที่มีกลิ่นฉุน
แต่สำหรับคนจีน ความคิดเห็นที่มีต่อทุเรียนส่วนใหญ่ค่อนข้างเป็นเอกฉันท์ว่าพวกเขาชื่นชอบทุเรียนมาก และเป็นประเทศที่มีการบริโภคทุเรียนมากที่สุดในโลก ซึ่งทั้งหมดเป็นทุเรียนที่นำเข้าจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้จีนกลายเป็นตลาดส่งออกทุเรียนที่สำคัญที่สุด
หนึ่งในเจ้าหน้าที่ของบริษัทที่นำเข้าผลไม้ของจีนเปิดเผยว่า เขาเริ่มนำเข้าทุเรียนเวียดนามชุดแรกเมื่อเดือนตุลาปีที่แล้ว จนถึงตอนนี้นำทุเรียนเวียดนามเข้าจีนไปกว่า 600 ตัน โดยเปรียบเทียบระหว่างทุเรียนเวียดนามและทุเรียนไทยว่า ทุเรียนเวียดนามมีราคาถูกกว่า แต่คุณภาพ รสชาติ และรูปร่างของทุเรียนนั้นถือว่าอยู่ในระดับดีมาก จึงมองว่าทุเรียนของเวียดนามมีความคุ้มค่าคุ้มราคามากกว่า
นอกจากนี้จีนยังติดตั้งระบบอัจฉริยะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการนำเข้าสินค้าเกษตรจากเวียดนาม มีช่องทางสีเขียวที่ทำให้ผักผลไม้ที่อาจเน่าเสียหรือเสื่อมคุณภาพเร็ว สามารถใช้กลไกพิเศษเพื่อผ่านการตรวจสอบของศุลกากรได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ผลไม้นำเข้าเหล่านี้ยังคงอยู่ในคุณภาพดีมากขึ้น ทั้งจีนและเวียดนามยังหวังว่าปริมาณการค้าระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะทุเรียน จะมีการเติบโตมากขึ้นอีกในอนาคตด้วย