"แมงมุม" พิษร้ายใช้ทดแทนไวอากร้า รักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศบุรุษ

คณะนักวิทยาศาสตร์ของ Federal University of Minas Gerais ในบราซิล กำลังเข้าใกล้เป้าหมายอีกขั้นในการเปลี่ยนพิษของแมงมุม Brazilian Wandering Spider หรือ แมงมุมกล้วย ( (banana spider) ที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก ให้กลายเป็นยารักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศของเหล่าบุรุษ 

แมงมุมกล้วยเป็นหนึ่งใน "แมง" (arachnids) หรือ สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังในกลุ่มของสัตว์ขาปล้อง และมีพิษร้ายที่เป็นอันตรายที่สุดต่อมนุษย์ คนที่ถูกแมงมุมชนิดนี้กัด ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที จะมีอาการเจ็บปวดและการอักเสบอย่างรุนแรง สูญเสียการควบคุมกล้ามเนื้อและมีปัญหาด้านระบบการหายใจ เสี่ยงเป็นอัมพาตและหายใจไม่ออกในที่สุด

แต่สำหรับนักวิทยาศาสตร์ พวกเขามองเห็นลักษณะที่ผิดปกติอย่างหนึ่งของพิษ ที่ช่วยจุดประกายความอยากรู้อยากเห็นที่สืบเนื่องมานานหลายทศวรรษ โดยพบว่าผู้ชายที่ถูกกัดเกิดการ "แข็งตัว" (erections) โดยไม่พึงประสงค์ที่กินเวลาหลายชั่วโมง ทำให้นักวิทยาศาสตร์เตรียมทำการทดลองทางคลินิกล่าสุด เพื่อทดสอบว่าพิษของแมงมุมสามารถนำมาใช้รักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction) แบบใหม่ได้หรือไม่

ในการทดสอบ ผู้เข้าร่วมจะไม่ได้รับพิษโดยตรง แต่ทำเป็นรูปแบบการสังเคราะห์ของสารพิษ เพื่อทดสอบผลกระทบและ "เอาชนะความเป็นพิษสูง" ของพิษของแมงมุม ที่ถูกตั้งชื่อว่า "BZ371A" ซึ่งช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดทั่วร่างกาย ซึ่งโดยธรรมชาติพิษของแมงมุมที่เกิดจากการถูกกัดมักถึงตาย เนื่องจากพิษแพร่กระจายทั่วร่างกายได้รวดเร็ว ในทางกลับกันการสกัดเอาเฉพาะ "BZ371A" จะช่วยสร้างความหวังให้ผู้ชายหลายล้านคน ที่เผชิญกับภาวะไม่พึงประสงค์นี้ 

แต่นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า ได้ทำการทดสอบนำร่องเฟสหนึ่งมาแล้วกับทั้งผู้ชายและผู้หญิง พิษที่ใช้ถูกแยกสารประกอบจากส่วนอันตรายอื่น ๆ ของพิษ เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงที่อันตรายใด ๆ และพบว่า BZ371A ทำให้เลือดไหลเวียนไปยังบริเวณที่ถูกฉีดเพิ่มขึ้น และสังเกตได้ว่าช่วยให้การแข็งตัวของเพศชายสะดวกขึ้น แต่ไม่มีอาการข้างเคียงอื่น ๆ เช่นการแข็งตัวเป็นเวลานานอย่างเจ็บปวด ที่เรียกว่าภาวะองคชาตแข็งค้าง (priapism) หรือความดันโลหิตสูง 

สำหรับเฟสต่อไป คือการทดสอบ BZ371A กับผู้ชายที่ได้รับการผ่าตัดเอาต่อมลูกหมากออกเนื่องจากมะเร็ง ที่มักประสบปัญหาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ อันเป็นผลจากการผ่าตัด และส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อในบริเวณนั้นของร่างกาย และหวังว่า BZ371A จะกลายเป็นการพัฒนาการทางการแพทย์ที่ช่วยกอบกู้ภาวะนี้ของเพศชาย



สาเหตุที่ต้องคิดค้นตัวยาขึ้นมาใหม่ทั้งที่มีไวอากร้าอยู่แล้ว เป็นเพราะใช่ว่าทุกคนจะใช้ยาตัวนี้ได้ มีการประเมินว่ามีเพียง 1 ใน 3 ของผู้ชาย ที่เผชิญภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ที่ใช้ไวอากร้าได้ เนื่องจากมีปัจจัยด้านสุขภาพที่อาจทำให้พวกเขาตอยู่ในอันตราย 

คณะนักวิทยาศาสตร์ที่กำลังวิจัย BZ371A ได้ครั้งความหวังว่า จะทำการทดสอบต่อไปอีกหลายครั้ง ศาสตราจารย์มาเรีย เอเลนา เด ลิม่า ผู้เชี่ยวชาญด้านชีวเคมี ประจำ Federal University of Minas Gerais ระบุว่า

"งานวิจัยนี้แสดงให้เห็นถึงคุณค่าของการอนุรักษ์สายพันธุ์ต่าง ๆ เช่น แมงมุมกล้วย และเหตุผลที่ว่าเหตุใดสัตว์ประเภทนี้ของเราจึงต้องได้รับการอนุรักษ์ เนื่องจากเป็นแหล่งโมเลกุลที่ออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่ไม่สิ้นสุด และเราไม่รู้ศักยภาพของมันมาก่อนเลยแม้เพียง 1%"