มีปัจจัยให้โทษตั้งมากมายตั้งแต่ ยุง, งู, อาหารบูดเสีย, ลูกเสือหลายพันคนถูกส่งเข้าโรงพยาบาล แต่อะไรคือสาเหตุที่แท้จริง กาย อดัมส์ ผู้สื่อข่าวชาวอังกฤษ ได้เข้าไปสืบสวนหาความจริงว่า การจัดงานชุมนุมลูกเสือโลก (World Scout Jamboree) ที่ใช้งบประมาณ 70 ล้านปอนด์ หรือว่า 3,000 ล้านบาท เพื่อรองรับวัยรุ่น 45,000 คน จากทั่วโลก ได้กลายเป็นความวุ่นวายที่ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศได้อย่างไร
งานชุมนุมลูกเสือโลกที่เกาหลีใต้ กลายเป็นเรื่องราวอันน่ากระอักกระอ่วนให้เจ้าภาพ เพราะสารพัดปัญหา ที่รวมทั้งคลื่นความร้อนจัด , ยุง, งูและอาหารบูดเน่า เหล่าลูกเสือจากทั่วโลก รวมทั้งกลุ่มที่เดินทางมาจากกรุงปารีสก่อนไปต่อเครื่องที่ดูไบ โดยมีปลายทางสุดท้ายที่เกาหลีใต้ เพื่อเข้าร่วมการผจญภัยในต่างแดน ที่พวกเขารอคอยด้วยความคิดว่าจะสนุกและตื่นเต้นที่สุดเป็นเวลาถึง 12 วัน แต่สิ่งที่พวกเขาเผชิญไม่ได้เป็นไปตามที่คิด พวกเขาเป็นหนึ่งในจำนวนวัยรุ่น 4,500 คน ที่ถูกอพยพออกจากค่ายลูกเสือ เพื่อความปลอดภัย
ผู้จัดงานได้กล่าวโทษเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกไม่เพียงพออย่างน่าอับอาย, สุขอนามัยที่ย่ำแย่, โครงสร้างพื้นฐานไม่แข็งแรง, สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย, บริการด้านการแพทย์ไม่เพียงพอ บางคนถึงกับเปรียบเทียบว่าเป็น "Squid Game" เวอร์ชั่นชีวิตจริง งานที่ล่มไม่เป็นท่ายังถูกซ้ำเติมด้วยการยกเลิกกิจกรรมที่เหลือ เพราะพายุไต้ฝุ่นกำลังจะพัดผ่านเข้าไปในพื้นที่จัดงาน ที่อาจจะพัดพาทุกสิ่งทุกอย่าง ที่นำพาความอับอายระดับชาติ และเป็นหายนะบรรดาหัวหน้าทีมลูกเสือต่างชาติ ที่ต้องเสียเงินเป็นค่าที่พักตามโรงแรมให้พวกเด็ก ๆ อย่างหัวหน้าลูกเสืออังกฤษซึ่งเป็นทีมใหญ่ที่สุดที่ไปร่วมงาน ต้องเสียเงินค่าที่พักไปถึง 1 ล้านปอนด์
แม้ความรู้สึกจะผสมผสานกัน เช่น ลูกเสือบางกลุ่มยังมองโลกในแง่ดีว่า เป็นบทเรียนของลูกเสือที่จะได้เรียนรู้ว่าทุกอย่างอาจไม่เป็นไปตามแผน แต่อีกจำนวนไม่น้อยไม่พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้บริษัทกฎหมายรายใหญ่ของเกาหลีใต้อย่าง EJE Law ซึ่งเป็นตัวแทนของกลุ่มลูกเสือที่ไม่พอใจ กำลังเตรียมดำเนินการฟ้องร้อง ขณะที่ผู้จัดงานกำลังจะเผชิญปัญหาใหญ่ที่คืบคลานเข้ามา
เกิดความผิดพลาดอะไร จะโทษใครหรืออะไรดี
พื้นที่จัดงานครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 5,500 ไร่ เคยเป็นพื้นที่ราบเผชิญน้ำขึ้น-น้ำลง ก่อนจะกลายเป็นพื้นที่แห้งเมื่อปี 2553 เมื่อทางการก่อสร้างกำแพงกั้นทะเลยาว 33 กิโลเมตร นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตั้งความหวังว่า จะสร้างโรงงานและโกดังสินค้าในพื้นที่ขาดแคลนของเขตบูอัน ที่อยู่ไม่ไกลจากรุงโซลมากนัก แต่พื้นที่ยังคงไม่ได้รับการพัฒนาและสภาพไม่ต่างจากทะเลทรายในหนังเรื่อง Mad Max บริเวณที่ตั้งค่ายในแซมังกึมไม่มีต้นไม้ มีแต่วัชพืชสูงแค่เข่า ย่อมหมายความว่าไม่มีสิ่งที่ให้ร่มเงาแก่ลูกเสือที่เผชิญอากาศร้อนจัด พื้นที่ก็ไม่น่าใช้สอยเพราะเกิดน้ำท่วมบ่อย ระบบระบายน้ำก็รับมือปริมาณน้ำฝนได้เพียง 3 นิ้วต่อสัปดาห์ ซึ่งไม่ควรใช้จัดงานชุมนุมลูกเสือโลกแต่แรก
งบประมาณหายไปไหนตั้งหลายล้าน
ไม่มีใครออกมายืดอกรับความอัปยศในการเตรียมการ และถูกโยนความรับผิดชอบไปให้คณะกรรมการจัดงาน ที่นำโดยประธานร่วม 5 คน คือนักการเมือง 4 คน และผู้นำลูกเสือเกาหลีใต้อีก 1 คน จากการสืบสวนของผู้สื่อข่าวชาวอังกฤษพบว่า งบประมาณที่ตั้งไว้เดิม 30 ล้านปอนด์ ได้บานปลายเป็น 70 ล้านปอนด์ แต่เชื่อว่าเงินที่ใช้จ่ายไปจริง ๆ ที่ค่ายลูกเสือน่าจะอยู่ราว ๆ 8 ล้านปอนด์ อีก 16 ล้านปอนด์ ใช้ไปกับโครงสร้างด้านสาธารณูปโภค เช่น สร้างถนน
คำถามที่ตามมาคือ แล้วเงินที่เหลือไปอยู่ที่ไหน? มีการเปิดโปงว่าเจ้าหน้าที่จัดงานชุมนุมลูกเสือโลก เดินทางไปต่างประเทศมากกว่า 100 ครั้ง ส่วนใหญ่ไม่เกี่ยวกับงาน รวมทั้งทริปไปสวิตเซอร์แลนด์ที่เป็นทริป 8 วัน แต่ทำงานจริงแค่ 2 วัน ที่เหลือ 6 วัน เป็นการท่องเที่ยวเมืองต่าง ๆ ของยุโรป เช่น อินเตอร์ลาเคน, ลูเซิร์น, มิลาน และเวนิซ อีกปีต่อมาก็มีอีกหนึ่งคณะที่ไปลอนดอนและปารีสในทริป 10 วัน เพื่อไปศึกษาการจัดงานชุมนุมลูกเสือที่อังกฤษแค่วันเดียว
พื้นที่ไม่อำนวย
เคยมีความพยายามปลูกต้นไม้แต่ดินเค็มทำให้ต้นไม้ไม่ขึ้น การแก้ปัญหาคือการสร้างศาลาหลบร้อน 1,700 แห่ง แต่ละศาลารองร้บคนได้ 26 คน แต่ในงานชุมนุมมีคนเข้าร่วมถึง 45,000 คน ผู้จัดงานสัญญาว่าจะจัดรถรับส่งแบบ shuttle bus แต่มีเพียง 13 คัน ทำให้ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่ต้องเดินทางเป็นระยะไกล ท่ามกลางความร้อนของแต่ละวันที่เป็นระยะทาง 7 กิโลเมตร โดยไร้ร่มเงา ต่อให้ไม่เป็นลมแดดแต่การใช้ชีวิตที่ค่ายก็ยากลำบาก พื้นที่ราบทุกอย่างดูเหมือนกันหมด มีแค่เต็นท์ที่พอจะแยกแยะได้ ป้ายบอกทางเต็มไปด้วยขยะ หลายคนเดินหลงทางเป็นวงกลม
เรื่องเริ่มแดงเมื่อพ่อแม่ของเด็ก ๆ เห็นสภาพความเป็นอยู่ของลูก ๆ ในโซเชียลมีเดีย บางคนบอกว่าลูกของพวกเขานอนอยู่ใกล้บึงโคลน พ่อแม่บางคนบอกว่า
"นี่พวกเขาควักกระเป๋าจ่ายเงินให้ลูก ๆ ไปเผชิญความลำบากขนาดนี้หรือนี่"
ยังไม่รวมกับการเจอฝูงยุงที่เติบโตจากแหล่งน้ำขังจำนวนมาก บางตัวเหมือนจะสามารถเจาะเสื้อผ้าไปเข้าไปดูดเลือดได้ด้วย พ่อแม่พากันใจสลายที่เห็นลูก ๆ ต่อคิวที่ศูนย์การแพทย์ในสภาพแข้งขาลายด้วยรอยยุงกัด มีภาพฝูงกบกระโดดเข้าไปในเต็นท์ หรือถุงนอนของเด็ก ๆ แต่บางคนเกือบโชคร้ายที่งูเข้าไปขดอยู่ใต้เตียงนอน มีเพียงลูกเสือบังคลาเทศที่กล้านอน เพราะพวกเขารู้วิธีรับมือกับงู
ไม่ปลอดภัย
ท่ามกลางอุณหภูมิที่สูงถึง 35 องศาเซลเซียส อากาศร้อนจัดและไร้ร่มเงา ทำให้ลูกเสือทำได้แค่ดื่มน้ำจากขวดพลาสติกที่ไม่เย็น และต้องนั่งตากแดด ยังมีเรื่องอัปยศที่ทำให้ลูกเสือเกาหลีใต้วอล์คเอาท์ เมื่อเจ้าหน้าที่ชาวไทยคนหนึ่ง เดินตามผู้นำลูกเสือหญิงเข้าไปที่ห้องอาบน้ำหญิง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันที่ 2 ของงาน ต่อมาชายคนนี้ถูกจับแต่ก็ได้รับอนุญาตให้อยู่ร่วมงานต่อ โดยผู้จัดงานอ้างว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นง่าย ๆ เพราะความแตกต่างทางวัฒนธรรม!?
ปัญหาเจ็บป่วย
มีคนต้องเข้าโรงพยาบาลถึง 1,486 คน ส่วนใหญ่มีสาเหตุจากความอ่อนเพลียเพราะอากาศร้อน บางคนติดเชื้อโควิด-19 แต่แพทย์วิตกเรื่องที่มีคนจำนวนมากถูกแมลงกัดต่อย
หลาย ๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ต้องยกเลิกกิจกรรม 170 อย่าง จากทั้งหมด 173 อย่าง หลังจากในวันแรกของพิธีเปิด พวกลูกเสือก็หมดแรงไปกับการทนยืนต้อนรับแขกผู้มีเกียรติยาวเหยียด ตลอดจนสปอนเซอร์และนักการเมือง ตอนนั้นมีเด็กเป็นลม 139 คน รวมทั้งอาการอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับความร้อน ซึ่งในวันนั้น อุณหภูมิทะลุ 40 องศาเซลเซียส
มีการแฉด้วยว่าในขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงมีเต็นท์บุฟเฟ่ต์ และตู้เย็นที่เต็มไปด้วยน้ำผลไม้แช่เย็น ลูกเสือกลับต้องพึ่งอาหารที่จัดโดยบริษัทจัดเลี้ยงท้องถิ่น Ourhome ที่จัดอาหารเช้าเพียงแค่ไข่ต้มสองฟอง ส่วนอาหารกลางวันพวกที่หิวโหยบ่นถึงปริมาณอาหารที่มีแค่โยเกิร์ตหนึ่งถ้วย กับอาหารเช้าแบบแท่งมูสลีย์ บาร์ (Muesli Bar) ส่วนพวกมังสวิรัตได้ข้าว 1 จาน กับเต้าหู้สี่เหลี่ยมธรรมดา 2 แผ่น แต่ผู้จัดโต้เป็นพัลวันว่ามีอาหารให้เลือกที่จัดเป็นบุฟเฟ่ต์อีก และยังถอดซัพพลายเออร์ "ไข่" ท้องถิ่น ไป 2 รายด้วย ส่วนผู้นำลูกเสือพากันร้องเรียนว่ามีการจัดอาหารที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะคนที่แพ้ถั่ว กับคนที่ต้องไดเอทเป็นพิเศษ
มันเหมือนเป็นการผลักดันให้คนส่วนใหญ่ต้องหันไปหาร้านสะดวกซื้อเครือ GS Retail ที่ฉวยโอกาสชาร์จราคาสินค้าอีก 20% และนับจากวันแรกถึงวันที่ต้องเก็บข้าวเก็บของหนีพายุ ค่ายลูกเสือแห่งนี้คือความทรงจำอันสุดอัปยศต่าง ๆ โดยเฉพาะการที่ลูกเสือ 2,500 คน ถูกนำส่งโรงพยาบาลภายในเวลา 24 ชั่วโมง