กู้ซากเรือดำน้ำ “ไททัน” ขึ้นฝั่ง พบชิ้นส่วนมนุษย์ด้วย

ชิ้นส่วนขนาดใหญ่จากเรือดำน้ำ “ไททัน” ได้รับการนำขึ้นฝั่งที่ท่าเรือเมืองเซนต์จอห์น รัฐนิวฟันด์แลนด์ของแคนาดาเมื่อวันพุธ (28 มิถุนายน 2566) หลังจากแรงดันใต้น้ำบีบอัดทำให้เรือดำน้ำไททันที่บรรทุกผู้โดยสาร 5 คน ระเบิดขณะดำน้ำลงไปยังจุดชมซากเรือดำน้ำไททานิกที่จมอยู่ในระดับความลึก 3,800 เมตรในมหาสมุทรแอตแลนติกเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2566

สื่อรายงานว่า ชิ้นส่วนเรือดำน้ำที่กู้ขึ้นมาได้น่าจะเป็นส่วนหัวเรือดำน้ำที่ทำจากไทเทเนียม, กรอบหน้าต่างชมวิว ซึ่งกระจกหลุดออกไป วงแหวนไทเทเนียม โครงลงจอดและช่องเก็บอุปกรณ์ 

ภารกิจเก็บกู้ซากเรือดำน้ำไททันดำเนินการร่วมกันระหว่างแคนาดา สหรัฐฯ ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร รวมทั้งบริษัทเอกชน โดยเรือฮอไรซอน อาร์คติกของแคนาดา ลากจูงยานสำรวจใต้น้ำควบคุมระยะไกล (ROV) ของบริษัทเพลาจิค รีเสิร์ช เซอร์วิส ของสหรัฐฯ ไปยังผิวน้ำเหนือจุดที่พบซากเรือดำน้ำไททัน และนำชิ้นส่วนที่กู้ได้กลับเข้าฝั่ง บริษัท ระบุว่า ปฏิบัติการนอกชายฝั่งเสร็จสิ้นแล้ว

คณะกรรมการสอบสวนทางทะเลของหน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ (MBI) จะขนย้ายหลักฐานเหล่านี้ไปที่ท่าเรือสหรัฐเพื่อตรวจวิเคราะห์และทดสอบต่อไป และ MBI ระบุในแถลงการณ์ว่า ยังมีงานต้องทำอีกมากเพื่อสอบสวนหาสาเหตุที่ทำให้เกิดหายนะกับเรือดำน้ำไททัน และหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมซ้ำรอยอีก  นอกจากนี้ชุดสอบสวนจะตรวจวิเคราะห์ชิ้นส่วนที่เชื่อว่าเป็นร่างกายมนุษย์ ที่เก็บมาอย่างระมัดระวังจากซากเรือด้วย และจะเปิดรับฟังคำให้การของพยาน

ผู้โดยสารทั้ง 5 คน ประกอบด้วย สต็อกตัน รัช ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท โอเชียนเกต เอ็กซ์พิดิชันส์ เจ้าของเรือดำน้ำไททัน, ฮามิช ฮาร์ดิง นักธุรกิจและนักสำรวจชาวอังกฤษ, ปอล อองรี นาโชเลต์ นักสำรวจชาวฝรั่งเศส, ชาห์ซาดา ดาวูด นักธุรกิจชาวปากีสถาน และสุเลมาน ดาวูด บุตรชาย

ก่อนหน้านี้เคยมีคำเตือนและข้อกังวลเกี่ยวกับเรือดำน้ำไททันจากผู้โดยสารที่บอกเล่าประสบการณ์ว่า เจอปัญหาการสื่อสารขัดข้อง, ใบพัด และอื่น ๆ และผู้เชี่ยวชาญ ตั้งคำถามเกี่ยวกับการใช้วัสดุใหม่อย่างคาร์บอนไฟเบอร์ในการสร้างเรือ แทนที่จะใช้วัสดุที่ผ่านการพิสูจน์ทดสอบแล้ว อย่าง คาร์บอนสตีล หรือ เหล็กกล้าคาร์บอน นอกจากนี้อดีตนักวิศวกรของโอเชียนเกต ก็เคยแสดงความกังวลเกี่ยวกับการออกแบบไททันและการขาดการทดสอบเรื่องการต้านทานแรงดันสูง