svasdssvasds
เนชั่นทีวี

บันเทิง

เต้ นันทศัย เปิดใจเกือบสิ้นชื่อ สมองเบลอ ถ่ายเป็นเลือด ทำเอาสาวๆ ใจเสีย

ออกมาเปิดใจแบบตรงๆ ไม่มียั้ง ทำเอาคุณผู้ชมถึงกับอึ้งหนักมาก สำหรับหนุ่มหล่อคนนี้ "เต้ นันทศัย พิศลยบุตร" หนุ่มเท่หุ่นฟิตเฟิร์ม เจ้าของตำแหน่ง ดัชชี่บอยแอนด์เกิร์ล ปี 2540

เป็นหนุ่มกล้ามโต ที่เรียกว่าเกิดมาเพื่อสายกีฬาโดยเฉพาะเลยจริงๆ สำหรับ เต้ นันทศัย ที่นอกจากจะเก่งทางด้านกีฬาในเกือบทุกประเภทแล้ว เขายังมีความสามารถทางด้านร้องเพลง งานพิธีกร และที่สำคัญ เขายังเคยได้รางวัล ดัชชี่บอยแอนด์เกิร์ล ปี 2540 อีกด้วยนะ 

 

เต้ นันทศัย เปิดใจเกือบสิ้นชื่อ สมองเบลอ ถ่ายเป็นเลือด ทำเอาสาวๆ ใจเสีย

เชื่อหรือไม่ว่า เห็นร่างกายฟิตๆ หุ่นบึ้กๆ ก้ามปูขนาดนี้ ทำหัวใจสาวเต้นโครมครามขนาดนี้ ก็มีนาทีเกือบสู่ขิดหรือถึงแก่ชีวิตกันเลยทีเดียว 


โดยเรื่องเล่าที่เป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้อ่าน ผู้ชมนั้นเกี่ยวกับพฤติกรรมการชอบการดื่ม ซึ่งทำให้ตัวเองถึงขั้นกับต้องเข้าพบแพทย์และเกิดเหตุที่แทบจะทำให้เอาชีวิตไม่รอดเลยทีเดียว

อ้างอิงมาจากบทสัมภาษณ์ส่วนหนึ่งของ "เต้ นันทศัย" ที่ได้เปิดใจไว้ในรายการ คุยแช่บShow ใจความระบุว่า 

"เมื่อก่อนดื่มหนักมาก ดื่มตั้งแต่วัยรุ่นเลยสมัย 10 กว่า ช่วงอายุ 20 ก็ดื่มทุกวัน ติดแล้ว ดื่มทีดื่มเยอะๆ  ดื่มข้ามวันข้ามคืน ดื่มแบบนี้อยู่ประมาณ 10 ปี จนอายุ 30 มันผลมีกับร่างกายเยอะ ข้างในเริ่มไม่ไหว หน้าตาเริ่มฉุ เวลาออกกล้อง หรือถ่ายละคร หน้าเริ่มอืด หุ่นเริ่มพัง เวลาเห็นหน้าตัวเองในทีวี รู้สึกว่ามันดูแก่กว่าอายุแล้ว 

เต้ นันทศัย เปิดใจเกือบสิ้นชื่อ สมองเบลอ ถ่ายเป็นเลือด ทำเอาสาวๆ ใจเสีย

 

ข้างในตัวเรา...มันเริ่มแย่ นั่งถ่ายที่ชักโครก เลือดกระเด็นติดประตูห้องน้ำเลย มันหนักมาก จนผมไม่ไหวต้องไปหาหมอ ไปตรวจร่างกายและหาหมอจิตแพทย์ จะทำอย่างไรให้เลิกเหล้าให้ได้ พอเจอหมอ หมอบอกว่าแอลกอฮอล์มันเริ่มทำร้ายอวัยวะภายในของเรา แอลกอฮอล์เริ่มกัดสมอง

 

เต้ นันทศัย เปิดใจเกือบสิ้นชื่อ สมองเบลอ ถ่ายเป็นเลือด ทำเอาสาวๆ ใจเสีย เต้ นันทศัย เปิดใจเกือบสิ้นชื่อ สมองเบลอ ถ่ายเป็นเลือด ทำเอาสาวๆ ใจเสีย

 

 

อยู่ดีๆ ผมก็แบลงก์หายไปเลย นิ่ง คิดอะไรต้องนึก มันก็มีผลกับการทำงาน จำบทได้แต่ต้องอ่านเยอะหลายรอบถึงจะทำได้ แต่เวลาไปทำงานผมจะไม่ดื่ม ยังพอมีวินัย ยังรู้ตัวอยู่ว่าถ้าพรุ่งนี้มีงานจะไม่ดื่ม อาการที่ผมเป็น เป็นอยู่นานเป็นปี จนไม่ไหว ต้องไปหาหมออย่างด่วนกันทีเดียว!!

หนุ่มหล่อหน้าใส "เต้ นันทศัย" เผยอีกว่า 

"แฟนเคยดุผมเรื่องกินเหล้าจัด กินหนักเกินไปกินจนแบบเฮ้ย เธอคิดว่าพรุ่งนี้จะไม่ได้กินแล้วเหรอ เขาพูดเสมอว่าคนเราต้องรักตัว ต้องดูแลตัวเองนะ ถ้าเรารักตัวเองไม่ได้ เราจะรักคนอื่นได้ไง เขาก็สอนเรา เตือนเรา แฟนผมก็ติดต่อคุณหมอ หาจิตแพทย์ดีๆ ให้ ก็ได้ยามากิน ยาจะทำให้ผมไม่อยากแอลกอฮอล์ พอไปดื่มก็จะเหม็นๆ ไม่ค่อยอยากกิน

 

ตนเองกินยาอยู่ 1 เดือน รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนป่วย เลยบอกหมอจะเลิกกินและขอหักดิบเอา เปลี่ยนวิถีวิตใหม่ คุมอาหาร ออกกำลังกายเลยทำให้ผมมาออกกำลังกายอย่างจริงจัง  ตอนนั้นผมอายุ 30 ก็ต้องขอบคุณแฟน เพราะถ้าไม่มีเขาผมก็คงยังเละเทะอยู่

 

ตอนที่ถ่ายเป็นเลือดก็กลัวตายนะ แต่พอจังหวะจะดื่มก็ไม่สนใจ ไม่แคร์ แฟนก็ยื่นคำขาด ถ้าไม่รักตัวเอง เราก็คงอยู่ด้วยกันไม่ได้ เขารักผมแต่ผมก็ต้องรักตัวเอง ซึ่งผมกลัวก็เลยทำให้ผมคิดได้และเปลี่ยนแปลงตัวเอง"

เต้ นันทศัย เปิดใจเกือบสิ้นชื่อ สมองเบลอ ถ่ายเป็นเลือด ทำเอาสาวๆ ใจเสีย

 

 


แอบคุ้ยประวัติ "เต้ นันทศัย" มาฝากสาวน้อยสาวใหญ่สาวจริงสาวไม่จริง

หนุ่มเต้ มีชื่อจริงว่า นันทศัย พิศลยบุตร
เต้ เกิดวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2525
ระดับส่วนสูง 178 เซนติเมตร
จบการศึกษาระดับมัธยมจากแผนกศิลป์คำนวณโรงเรียนทิวไผ่งาม
ติดตามผลงานได้ที่ IG : taekopman369

เส้นทางในวงการบันเทิง

เต้ นันทศัย เรียกว่าเข้าวงการมาตั้งแต่อายุ 13 ปี เลยทีเดียว จากการที่เขาได้รับงานโฆษณากล้องโพลารอยด์ และหลังจากนั้นเขาก็ร่วมเข้าประกวด ดัชชี่บอยแอนด์เกิร์ล ปี 2540 และได้ตำแหน่งด้วย

 

โดยเวที ดัชชี่บอยแอนด์เกิร์ล เป็นเวทีที่ได้รับความนิยมของวัยรุ่นยุคสมัยนั้นเป็นอย่างมาก โดยส่วนตัวของ เต้ นั้นเป็นคนที่ถนัดด้านกีฬาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกีฬาเทนนิส ที่เขาฝึกเล่นมาตั้งแต่อายุได้ 10 ขวบ จากคุณพ่อที่เป็นนักกีฬาเทนนิสทีมชาติ และนอกจากกีฬาเทนนิสแล้ว เขายังมีความสามารถในด้านกีฬาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น บาสเกตบอล และยังรวมไปถึงวิ่งอีกด้วย

 

เต้ นันทศัย เปิดใจเกือบสิ้นชื่อ สมองเบลอ ถ่ายเป็นเลือด ทำเอาสาวๆ ใจเสีย

ด้านการเรียนนั้น เต้ จบศึกษาระดับมัธยมจากแผนกศิลป์คำนวณโรงเรียนทิวไผ่งาม และมีผลงานบันเทิงตั้งแต่ช่วงนั้น ไม่ว่าจะเป็น พิธีกรรายการวัยรุ่นอย่าง ไทม์ ฟอร์ ทีน งานเพลงออกอัลบัม รวมไปถึงงานแสดง แต่เขาก็ได้หยุดผลงานด้านบันเทิงของตัวเองไปช่วงหนึ่ง เพราะเขาได้กลับไปเรียนต่อ โดยหลังจากการสอบเทียบได้สำเร็จแล้ว เขาก็ได้กลับมาทำงานในวงการบันเทิงอีกครั้งโดยเน้นการแสดงเป็นหลัก

ขอขอบคุณภาพ/ข่าวจาก : รายการคุยแซ่บShow