จากสาวน้อยสุดมั่นที่เดินทางมาประเทศไทยด้วยความเด็ดเดี่ยวเพื่อคว้าตำแหน่งผู้ชนะ The Face Thailand Season 2 และเธอก็ทำได้สำเร็จ หลายปีแล้วที่เธอโลดแล่นในวงการบันเทิงไทย สำหรับนักแสดงเเละนางเเบบสุดแซ่บ ติช่า-กันติชา ชุมมะ ด้วยบุคลิกที่เป็นคนชัดเจน สาวมั่นสุดเซ็กซี่ แต่น้อยคนนักที่จะทราบว่าเส้นทางชีวิตของเธอไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ กว่าจะมีวันนี้ต้องผ่านอุปสรรคอย่างมากมาย
หลังจากที่ชนะ The Face หลังจากนี้อีก 7-8 ปีสาวติช่ามีภาพชัดพอสมควร มีวิชั่นค่อนข้างเยอะเลยกับตัวเอง เป็นคนที่ทำอะไรจะต้องมองให้ไกล คือเป็นตั้งแต่เด็กๆ เรามีความฝันที่ยิ่งใหญ่ ไม่รู้มาจากไหนอยากจะเป็น Something Somebody ตั้งแต่เด็กแล้ว เราดูรายการในทีวีก็คิดว่าสักวันฉันจะเป็นแบบนี้ ตอนดูอะไรที่เราชอบแล้วก็รู้สึกว่าอยากไปถึงตรงนั้นบ้าง
ตลอดการเติบโตของ ติช่า เคยเจออะไรมาบ้าง ?
ติช่า : ตอนเด็กๆ เจอความลำบาก เหมือนกับว่าครอบครัวแยกทางกันก็เจอกับความยากจน ติช่าเกิดที่นครศรีธรรมราช แล้วก็ไปอยู่ที่ภูเก็ตสักแป๊บนึงซึ่งจำอะไรแทบไม่ได้เลย ซึ่งก็จำแต่สิ่งแย่ๆ ในหลายๆ ครั้ง โดนทำร้ายโดยผู้ปกครอง แล้วครอบครัวก็แตกแยกกันจึงย้ายไปอยู่ที่สกลนครช่าไม่ได้มีตัวเลือกไหนนอกจากใช้ชีวิตต่อ คือช่าไม่รู้หรอกว่าช่าเข้มแข็งเท่าไหร่แต่มันเป็นทางรอดเดียว ไม่งั้น You Cannot
แล้วคุณก็ไปอยู่ที่สกลนคร ?
ติช่า : พอครอบครัวแยกกันก็ไปอยู่กับยาย ตอนนั้นคือจนสุดๆ ขนาดที่ไม่สามารถซื้อรองเท้านักเรียนใส่ได้ ต้องเดินเท้าเปล่า ได้ค่าขนม 3 บาทต่อวัน แต่ช่าเหลือเก็บ 2 บาททุกวัน ภูมิใจในตัวเองมาก เพราะติช่าฝึกควบคุมตัวเองตั้งแต่เด็ก ซึ่งเงินที่เก็บไม่ได้จะไปซื้อของขวัญหรือของเล่น แต่เก็บไว้โทรหาแม่ จำได้ว่าแม่ไปอยู่ต่างประเทศแล้วเราก็โทรไปหาเขา ตอนนั้น 1 นาทีมันราคา 50-60 บาท แล้วช่าอยากคุยกับแม่ 3 นาทีต้องเก็บเท่าไรล่ะ จึงต้องหักห้ามใจถ้ากินเยอะก็จะได้คุยกับแม่น้อยลง ช่าจึงเก็บเงินออมไว้เป็นกระปุกเลยค่ะ
ได้ข่าวว่ามีคนขโมยเงินด้วย ?
ติช่า : ใช่ เราพาเพื่อนมาเล่นที่บ้าน เขาก็เลยขโมยกระปุกเงินไปที่เราเก็บวันละ 2 บาท ซึ่งได้เป็นหลายร้อยมากเลย ตอนนั้นเสียใจร้องไห้เลยค่ะ ทุกความอดทนที่ฉันอดข้าวมา มันมีหลายครั้งที่มองดูเด็กคนอื่นกินขนมแล้วต้องหันหน้าหนี เพื่อที่เราจะเอาเงินไปทำสิ่งที่สำคัญกว่า ทุกอย่างที่อดทนใช้เวลานานมากมันหายไปเลย
อยู่กับยายนานไหม ในตอนนั้นหนูน้อยติช่าคิดอะไรเกี่ยวกับครอบครัว?
ติช่า : 3 ปีค่ะ จำได้แค่ว่าสักวันจะมีวันที่ดีขึ้น จะอยู่ในจินตนาการวาดภาพในอนาคต
ตอนที่ไปอยู่สวีเดนชีวิตดีขึ้นไหม ?
ติช่า : ช่ารู้สึกว่า โอมายก๊อดนี่คือโมเม้นต์ของฉัน เป็นคนใหม่ ชีวิตใหม่ ฉันจะเป็นได้ทุกอย่าง ฉันมีโอกาสเท่าโลกเลย จากแต่ก่อนมันอยู่แค่ตรงนั้น แล้วช่าเป็นคนที่ทะเยอทะยานมาก อยากจะเรียนเก่งที่สุด อยากจะทำอันนี้เก่งที่สุด เพื่อวันหนึ่งจะได้เป็นคนที่ประสบความสำเร็จ มีพลัง มีกำลังที่จะดูแลตัวเองได้
โอ้มายก๊อด! มันเป็นโมเม้นต์ที่ช่ารอเหรอ ทุกอย่างที่ทำมาในชีวิตที่พยายามจะประสบความสำเร็จ เพื่อช่วงเวลานี้แหล่ะ ที่เรารู้สึกเท่าเทียมกัน เราเป็นผู้ใหญ่ 2 คนมองตากัน อยากเป็นที่ยอมรับที่ทำงานหนัก ไต่เต้ามาเรื่อยๆ ไปทำโน่นนี่ก็เพื่อสิ่งนี้ ให้เขาบอกว่าขอบคุณติช่า มันใช้เวลาขนาดนี้เลยเหรอ แล้วเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นคำๆ นี้ที่เราต้องการ ฉันแค่อยากได้บางอย่าง อยากจะประสบความสำเร็จ แต่พอวันนั้นมา อ๋อ! นี่น่ะเหรอรางวัลของฉัน หลังจากนั้นเราดีกัน รู้สึกว่ามันปลดล็อกอะไรสักอย่าง รู้สึกว่าเรา Positive กันมากขึ้น
ที่มา Woody FM