เปิด 7 ความท้าทายที่ "Apple" ต้องเผชิญ ก่อนกลับมาทวงแชมป์ยักษ์ใหญ่ของโลก

ถึงแม้ Apple จะได้รับการขนานนามว่าเป็น 1 ใน บริษัทในกลุ่ม Magnificent 7 ซึ่งมีส่วนสำคัญในการนำตลาดหุ้นสหรัฐฯ ให้ปรับเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดตลอดกาลได้สำเร็จ แต่ดูเหมือนในช่วงที่ผ่านมา Apple จะต้องเผชิญกับหลายปัญหาที่รุมเร้าจนกระทั่ง Apple โดน Microsoft แซงหน้าขึ้นเป็นบริษัทที่มี Market Cap สูงที่สุดในโลก

นอกจากนี้ยังถูก Nvidia ไล่จี้ขึ้นมาเป็นอันดับ 3 ของบริษัทที่มี Market Cap สูงที่สุดในโลกด้วยเช่นเดียวกัน โดยในวันนี้เราจะมาสำรวจ 7 ความท้าทายที่ Apple จะต้องเผชิญไปพร้อม ๆ กันในช่วงเวลาต่อจากนี้

1.แรงกดดันจากสหภาพยุโรป

กฎหมาย Digital Markets Act จะมีผลบังคับใช้ในช่วงต้นเดือนมีนาคม ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อ ecosystem ของ Apple โดยกฎหมายดังกล่าวจะทำให้ผู้ใช้งานของ Apple สามารถดาวนโหลดโปรแกรมที่อยู่นอก App Store ได้เป็นครั้งแรก นอกจากนี้ผู้ใช้งานอุปกรณ์ Apple ในยุโรปจะสามารถชำระเงินด้วยระบบอื่นนอกเหนือจากการตัดการชำระเงินผ่าน App Store และยังสามารถเปลี่ยนโปรแกรมเว็บบราวเซอร์เบื้องต้นได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น

 

2.กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯเตรียมฟ้อง Apple ข้อหาผูกขาดการค้า

กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐ ฯ เตรียมข้อมูลในการยื่นฟ้อง Apple มายาวนานกว่า 5 ปี ในข้อหาผูกขาดการค้าจากการสร้างข้อจำกัดทั้งด้าน Software และ Hardware ซึ่งทำให้คู่แข่งเกิดความเสียเปรียบ โดยรายงานข่าวจากบางแหล่งระบุว่ามีความเป็นไปได้ที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯจะยื่นฟ้อง Apple ในช่วงสิ้นเดือนมีนาคมนี้ อย่างไรก็ดีตัวแทนของ Apple ได้เข้าพบกับเจ้าหน้าที่ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเพื่อโน้มน้าวใจไม่ให้การฟ้องร้องเกิดขึ้น

3.ตามหลังบริษัทอื่นด้าน AI

ตั้งแต่ปลายปี 2022 เป็นต้นมาการได้รับความนิยมอย่างมากของ ChatGPT ที่พัฒนาโดย OpenAI ทำให้หลายบริษัทต่างเพิ่มฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้องกับ Generative AI ให้กับผู้ใช้งาน ในขณะที่ Apple ยังไม่ได้มีการเปิดเผยฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้องกับ Generative AI มากนัก อย่างไรก็ดีล่าสุด Tim Cook CEO ของ Apple ออกมาระบุอย่างชัดเจนว่า Apple กำลังทุ่มทรัพยากรทั้งบุคลากรและเงินลงทุนไปกับ AI และจะมีการเปิดเผยความคืบหน้าออกมาในปีนี้

4.ยอดขายในจีนลดลง

รายงานยอดขาย iPhone ในจีนในช่วง 6 สัปดาห์แรกของปีนี้ออกมาปรับตัวลดลงถึง 24% นอกจากนี้คู่แข่งรายสำคัญของ Apple ในจีนอย่าง Huawei ยังคงมียอดขายเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากสามารถผลิตมือถือที่มีเทคโนโลยี 5 G เป็นผลสำเร็จถึงแม้จะต้องเผชิญกับมาตรการจำกัดการส่งออกสิ้นค้าที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี 5 G จากสหรัฐฯก็ตาม

5.การล้มแผนผลิตรถยนต์ไฟฟ้า

หลังจากมีแผนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของตัวเองมาอย่างยาวนานกว่า 10 ปี ล่าสุด Apple ก็ได้ประกาศว่าจะล้มเลิกแผนการดังกล่าวและหันมามุ่งเน้นไปที่การพัฒนาด้าน AI แทน

ซึ่งทำให้ความคาดหวังที่หลายคนคาดว่า Apple จะมีโปรดักส์ใหม่ที่จะมาสร้างการเติบโตให้กับ Apple ก็ต้องหายไป แต่ในทางกลับกันนักลงทุนหลายคนก็มีมุมมองที่ดีกับการล้มแผนรถยนต์ไฟฟ้าของ Apple เนื่องจากหมายความว่า Apple จะไม่ต้องสูญเสียเงินหลายพันล้านดอลลาร์ไปกับการลงทุนในครั้งนี้

6.แว่น Vision Pro ยังได้รับความนิยมเฉพาะกลุ่ม

แว่นตา Apple Vision Pro เริ่มวางจำหน่ายในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งในตอนแรกถึงแม้จะมีบทวิจารณ์ในเชิงบวกออกมาบ้าง แต่ด้วยราคาจำหน่ายที่สูงถึง $3,500 เหรียญ และจุดประสงค์การใช้งานที่ยังดูไม่ชัดเจนนัก

ในปัจจุบันจึงยังถือเป็นสินค้าทีได้รับความนิยมในเฉพาะคนบางกลุ่มเท่านั้น นอกจากนี้ปัญหาที่เกิดกับ Apple Vision Pro ยังมีประเด็นของน้ำหนักที่มากเกินไปทำให้เกิดความลำบากที่จะสวมใส่เป็นเวลานาน และนักพัฒนา Software หลายคนยังคงทำการชะลอการสร้าง Application ที่ใช้งานกับแว่น Vision Pro โดยเฉพาะ

7.คดีละเมิดสิทธิบัตรฟีเจอร์ใน Apple Watch

เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักที่ Apple จะประกาศระงับการวางจำหน่ายสินค้า แต่คดีความที่บริษัทผลิตอุปกรณ์การแพทย์ Masimo ได้ยื่นฟ้อง Apple ในข้อหาละเมิดสิทธิบัตรฟีเจอร์ตรวจวัดออกซิเจนในเลือด ถึงแม้ Apple จะปิดการใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าวและทำให้ Apple Watch กลับมาวางจำหน่ายได้ปกติ แต่การสูญเสียความสามารถในการวัดออกซิเจนในเลือด ก็อาจส่งผลให้เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ ในอนาคต

อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่า Apple จะต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย แต่ต้องไม่ลืมว่าในอดีต Apple ก็ผ่านพ้นอุปสรรคต่าง ๆ มาได้ทุกครั้ง โดยเฉพาะในครั้งนี้หาก Apple เปิดตัว Generative AI ที่มีความสามารถทัดเทียมหรือเหนือกว่าของบริษัทอื่น ๆและติดตั้งมากับอุปกรณ์ต่าง ๆ ของ Apple ก็อาจจะเป็นหมัดเด็ดที่ทำให้ Apple มีโอกาสกลับมาทวงอันดันดับ 1 บริษัทที่มี Market Cap สูงที่สุดในโลกได้อีกครั้ง


บทความโดย  : สวภพ ยนต์ศรี AFPT™ Senior Wealth Manager บลจ.ทิสโก้