น.ส.สุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ทำการสำรวจลู่ทางและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังต่างประเทศตามนโยบายนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่เร่งผลักดันการส่งออก และส่งเสริมผู้ประกอบการไทย ล่าสุดได้รับรายงานจาก น.ส.รัตนาภรณ์ สิงห์ศักดา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงซันติอาโก ถึงแนวโน้มการนำเข้าสินค้าของโคลอมเบีย และโอกาสในการส่งออกสินค้าไทยไปจำหน่าย เพื่อรองรับนโยบายของโคลอมเบียที่มุ่งกระจายความเสี่ยงในการเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากประเทศต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ ทูตพาณิชย์ได้รายงานว่า การนำเข้าของโคลอมเบียที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้นของหลายภาคอุตสาหกรรม ครอบคลุมสินค้าเกษตรกรรม สินค้าวัตถุดิบเพื่อการผลิต รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภคอื่น ๆ เช่น ผลิตภัณฑ์ยาและเวชภัณฑ์ รถยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์และส่วนประกอบ เครื่องจักรกล อุปกรณ์ก่อสร้าง แม้ว่าโคลอมเบียจะสามารถผลิตสินค้าเกษตรกรรมได้จำนวนมาก แต่ยังคงต้องนำเข้าเพิ่มเติมเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมผลิตอาหาร และโคลอมเบียยังมีการผลิตสินค้าขั้นกลางและสินค้าทุน ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักในท้องถิ่น จึงจำเป็นต้องนำเข้าวัตถุดิบเพื่อการผลิต เช่น อุปกรณ์ก่อสร้าง อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องจักรกล
อย่างไรก็ตาม นโยบายการค้าของโคลอมเบียให้ความสำคัญต่ออุตสาหกรรมการผลิตสินค้าในประเทศ ส่งผลให้การนำเข้าสินค้าวัตถุดิบเพื่อการผลิตมีการขยายตัวตามไปด้วย โดยโคลอมเบียมีความพยายามในการกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพาการนำเข้าจากเพียงไม่กี่ประเทศ ซึ่งที่ผ่านมา นำเข้าสินค้าหลักจากจีนและสหรัฐฯ เป็นหลัก ทำให้ต้องกระจายความเสี่ยงโดยการนำเข้าวัตถุดิบและสินค้าจากประเทศอื่นเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทานการผลิต และมุ่งสร้างเครือข่ายและความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศต่างๆเพิ่มขึ้น โดยล่าสุด
ช่วง 9 เดือนปี 2567 โคลอมเบียได้นำเข้าสินค้าจากประเทศต่างๆ ในเอเชียเพิ่มขึ้น ได้แก่ เวียดนามเพิ่ม 88.44% ฟิลิปปินส์เพิ่ม 65.92% ศรีลังกาเพิ่ม 56.59% และไทยเพิ่ม 55.20%
น.ส.สุนันทา กล่าวว่า ในปี 2566 โคลอมเบียประสบปัญหาการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้เศรษฐกิจ มีการขยายตัวเพียง 0.6% แต่ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เศรษฐกิจของโคลอมเบียสามารถฟื้นตัวได้อีกครั้ง ขยายตัวที่ 1.5% และข้อมูลการศึกษาของธนาคาร Banco Bilbao Vizcaya Argentaria (BBVA) ของสเปน คาดการณ์ว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของโคลอมเบียในปี 2567 จะอยู่ที่ 2% และเพิ่มขึ้นเป็น 2.8% ในปี 2568 และ 3.5% ในปี 2569 ตามลำดับ โดยได้รับแรงสนับสนุนจากอุปสงค์ภายในประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการบริโภคของภาคเอกชนและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนอัตราเงินเฟ้อของโคลอมเบียจะลดลงอยู่ที่ 5.4% ภายในสิ้นปี 2567 และมีแนวโน้มลดลงในปี 2568 แสดงให้เห็นถึงเสถียรภาพทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มดีขึ้น
“จากนโยบายของโคลอมเบียที่ให้ความสำคัญกับการนำเข้าสินค้าจากประเทศต่างๆเพิ่มขึ้น และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ทำให้ไทยมีโอกาสในการขยายการส่งออกสินค้าไปยังโคลอมเบียได้เพิ่มขึ้น ซึ่งกรมฯพร้อมเร่งดำเนินการตามนโยบายของนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้การสนับสนุนผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SME ในการเข้าไปทำตลาด ทั้งการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า การจัดคณะผู้แทนการค้า และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในรูปแบบต่างๆ”น.ส.สุนันทากล่าว
สำหรับสินค้าที่โคลอมเบียนำเข้าจากไทยในช่วง 9 เดือนปี 2567 5 อันดับแรก ได้แก่ (1) particleboard สำหรับภาคการก่อสร้าง มูลค่า 20.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 238.76% (2) วัสดุสำหรับอุตสาหกรรมการผลิตเสื้อผ้า เช่น เส้นใยหลัก เส้นด้าย เส้นใย มูลค่า 20.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 136.92% (3) เครื่องใช้ในครัวเรือน และเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น อุปกรณ์เครื่องปรับอากาศ และเครื่องพิมพ์ มูลค่า 109.7 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 87.71% (4) รถกระบะและรถจักรยานยนต์ มูลค่า 18.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 16.04% และ (5) เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์การฉายแสง มูลค่า 12.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.05% ตามลำดับ และยังมีสินค้าอื่น ๆ ที่นำเข้าเพิ่มขึ้น เช่น ส่วนผสมสำหรับการผลิตสินค้าเพื่อความงาม เพิ่มขึ้น 130.7% ผลไม้แปรรูปและอาหารสัตว์ เพิ่มขึ้น 79.7% ของเล่น อุปกรณ์ออกกำลังกายและเล่นเกม เพิ่มขึ้น 62.5% ผักและธัญพืช เพิ่มขึ้น 59.2% เป็นต้น
สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือสายตรงการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169