นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2567 (มกราคม - ตุลาคม) ไทยส่งออกข้าวแล้วปริมาณ 8.35 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 20% มีมูลค่า 191,031 ล้านบาท (ประมาณ 5,411 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 40% โดยส่งออกข้าวขาวมากเป็นอันดับหนึ่งที่ปริมาณ 5.18 ล้านตัน คิดเป็น 62% ของปริมาณการส่งออกข้าวไทยทั้งหมด รองลงมา ได้แก่ ข้าวหอมมะลิไทย 1.37 ล้านตัน ข้าวนึ่ง 1.01 ล้านตัน ข้าวหอมไทย 0.54 ล้านตัน ข้าวเหนียว 0.23 ล้านตัน และข้าวกล้อง 0.02 ล้านตัน
ซึ่งไทยส่งออกข้าวไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนในทุกภูมิภาค โดยมีตลาดส่งออกข้าวที่สำคัญ ได้แก่ อินโดนีเซีย ซึ่งไทยส่งออกข้าวไปอินโดนีเซียมากเป็นอันดับหนึ่งที่ปริมาณ 1.12 ล้านตัน คิดเป็น 13% ของปริมาณการส่งออกข้าวไทยทั้งหมด โดยในปีนี้ส่งออกไปอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นเกือบ 6% รองลงมา ได้แก่ อิรัก 0.95 ล้านตัน (เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 23 %) แอฟริกาใต้ 0.72 ล้านตัน (ลดลงจากปีก่อน 12%) สหรัฐอเมริกา 0.70 ล้านตัน (เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 21%) และฟิลิปปินส์ 0.49 ล้านตัน (เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 250%)
ในปีนี้นอกจากปริมาณการส่งออกข้าวไทยจะเพิ่มขึ้นแล้ว ราคาข้าวสารส่งออกและราคาข้าวเปลือกในประเทศโดยเฉลี่ยในช่วง 10 เดือนแรกของปี ก็ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกันเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และการส่งออกข้าวไทยในปี 2567 ยังเป็นไปด้วยดีอย่างต่อเนื่อง
ดูจากข้อมูลใบอนุญาตส่งออกข้าวของกรมการค้าต่างประเทศพบว่า ในเดือนพ.ย. 2567 มีการขออนุญาตส่งออกข้าวแล้วประมาณ 0.92 ล้านตัน เมื่อรวมกับปริมาณส่งออกข้าว 10 เดือนแรกที่ส่งออกแล้ว 8.35 ล้านตัน จึงมีตัวเลขส่งออกข้าว 11 เดือน อยู่ที่ประมาณ 9.27 ล้านตัน ถือว่า ทะลุเป้าที่ตั้งไว้ที่ 9 ล้านตันแล้ว
ทั้งปีมีโอกาสลุ้นถึง 10 ล้านตันเนื่องจากผู้นำเข้าข้าวยังคงมีความต้องการนำเข้าข้าวเพื่อรองรับกับความต้องการบริโภคช่วงปลายปีสำหรับเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ต่อเนื่องไปจนถึงเทศกาลตรุษจีน ประกอบกับปริมาณผลผลิตข้าวของไทยเพียงพอพร้อมตอบสนองความต้องการของตลาดข้าวโลก รวมทั้งศักยภาพในการส่งออกข้าวของไทยที่สามารถส่งมอบข้าวให้ผู้นำเข้าได้อย่างต่อเนื่อง
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับปี 2568 คาดว่าปริมาณการส่งออกข้าวไทยมีแนวโน้มลดลงจากปี 2567 จากการกลับมาส่งออกข้าวของอินเดีย ซึ่งอินเดียมีผลผลิตข้าวปริมาณมากและมีสต็อกข้าวอยู่ในระดับสูงจากการควบคุมการส่งออกข้าวในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งปริมาณผลผลิตข้าวโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเนื่องจากภาวะภัยแล้งคลี่คลายและมีน้ำสำหรับการเพาะปลูกเพิ่มขึ้น ทำให้การค้าข้าวในตลาดโลกมีการแข่งขันสูง ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายพิชัย นริพทะพันธุ์) ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวและได้มอบนโยบายเร่งขับเคลื่อนผลักดันการส่งออกข้าวสร้างรายได้เข้าประเทศ ซึ่งกรมฯ จะหารือแนวโน้มสถานการณ์และคาดการณ์ปริมาณส่งออกข้าวไทยปี 2568 ร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เพื่อเตรียมแผนรองรับการผลักดันการส่งออกข้าวเพื่อให้มีคำสั่งซื้อรองรับผลผลิตข้าวไทยต่อไป